Home
|
อาชญากรรม

ผัวเมีย ร้อง กู้หนี้นอกระบบ โดนข่มขู่ อ้างเป็นญาตินักการเมืองพรรคดัง

Featured Image
ผัวเมีย ร้อง กู้เงินนอกระบบ 6 แสน ดอกเบี้ยพุ่งเป็นล้าน จ่ายดอกวันละหลักพันบาท เกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย เนื่องจากเจ้าหนี้ข่มขู่ อ้างรู้จักตำรวจ – นักการเมืองชื่อดัง

 

 

 

 

 

วันนี้ (18 ม.ค 67 ) เวลา 11.00 น.ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางจ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พาสามี – ภรรยา ซึ่งเป็นผู้เสียหาย และนายณัฐปกรณ์ สุดชา ทนายความ มาที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากไปกู้เงินนอกระบบมา 600,000 บาท แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเกือบ 2 ล้านบาท ซ้ำยังถูกเจ้าหนี้ข่มขู่และฟ้องดำเนินคดี เครียดจนคิดสั้นหวังปลิดชีวิตตัวเอง

 

 

นางวัลย์ อายุ 58 ปี เป็นผู้เสียหาย เล่าว่า มีเพื่อนแนะนำให้ตนไปกู้เงินนอกระบบกับน้าชาย ตนจึงไปกู้หนี้นอกระบบมาเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อลงทุนขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาดนัด และจะส่งดอกเบี้ยวันละ 3,000 บาท เป็นระยะเวลา 120 วัน รวมแล้วต้องจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย 360,000 บาท และได้ไปกู้มาใหม่ทำให้เป็นหนี้กว่า 600,000 บาท ซึ่งตนก็ได้ส่งเงินไปแล้ว 80 วัน เป็นเงิน 240,000 บาท จากนั้นตนก็เริ่มขายเสื้อผ้าไม่ดี ทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

 

 

จึงขอเสนอว่า ขอให้รวมยอดทีเดียวเลย แต่ตนจะขอส่งแค่วันละไม่เกิน 2,000 บาท โดยจะขอเพิ่มวันในการส่ง แลกกับการเพิ่มดอกเบี้ย เจ้าหนี้คนดังกล่าวจึงหลอกให้ตนไปทำสัญญาร่วมลงทุนธุรกิจขายเสื้อผ้า โดยอ้างว่า ถ้าทำสัญญาจะสามารถส่งดอกเบี้ยวันละไม่เกิน 2,000 บาทตามที่ผู้เสียหายร้องขอได้ ผู้เสียหายจึงยอมเซ็นข้อตกลงนี้

 

 

จากนั้นก็ได้มีการส่งดอกเบี้ยตามข้อตกลงกันเรื่อยมา ซึ่งบางครั้งตนส่งไม่ไหวเจ้าหนี้ก็ได้มีการให้ล้มวงพร้อมกับเริ่มส่งดอกเบี้ยใหม่ ทำให้ตนจ่ายหนี้ไปแล้วกว่า 1,300,000 บาท ซึ่งเจ้าหนี้บอกว่ายังเหลืออีก 560,000 บาท

 

 

จากนั้นปรากฏว่า ตนได้รับหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวนสน.พญาไท ฐานผิดสัญญาร่วมลงทุน เนื่องจากตนขาดการส่งเงิน ทำให้ทำผิดสัญญาร่วมลงทุน และให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 25 ธันวาคม 2566 แต่ตนก็ได้ขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 15 มกราคม และขอเลื่อนอีกครั้งเป็นวันที่ 20 มกราคมนี้

 

 

นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังได้เล่าอีกว่า เจ้าหนี้คนดังกล่าว เป็นผู้มีอิทธิพล มักจะอ้างว่ารู้จักกับตำรวจใน สน. พญาไท ข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะพาตัวไปที่ สน. และอ้างว่าเป็นญาติกับนักการเมืองพรรคหนึ่ง บางครั้งก็มีคนขี่รถจักรยานยนต์มามาจอดหน้าร้านอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ข่มขู่ว่าจะให้ลูกน้องมาขับรถชนลูกชายของตน ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกหวาดกลัว

 

ใช้ชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง และถึงขั้นคิดสั้นที่จะฆ่าตัวตาย พร้อมกับฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือและดูแลลูกหนี้นอกระบบ และตนได้ไปยื่นพักหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดใช้ แต่ก็ยังไม่ได้นับการช่วยเหลือแต่อย่างใด ตนจึงได้มาร้อง จ่าคิงส์ ให้ช่วย

 

 

นายณัฐปกรณ์ สุดชา ทนายความ กล่าวว่า คดีนี้มูลเหตุเบื้องต้นคือ เกิดจากการกู้หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด และทางผู้เสียหายใช้หนี้จนเกินกำหนด ทางผู้กระทำความผิด ได้มีการเปลี่ยนสัญญาการกู้เงินที่เป็นคดีแพ่งเปลี่ยนเป็นสัญญาร่วมทุน แล้วเอาสัญญาร่วมทุนนี้ไปแจ้งความที่ สน.พญาไท เพื่อที่จะมาเล่นงานในคดี อาญา และทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท

 

 

มีการออกหมายเรียกผู้เสียหายคือ ในเหตุที่ว่าร่วมทำสัญญาซื้อขายเสื้อผ้า แต่ว่าทางผู้เสียหายไม่ได้นำเงินไปซื้อขายเสื้อผ้าตามวัตถุประสงค์ตามที่เขียนไว้ในสัญญา ซึ่งสัญญาตัวนี้ ตามกฎหมายเป็นนิติกรรมอำพราง เพราะเปลี่ยนสัญญาจากสัญญาเงินกู้เป็นสัญญาร่วมทุน สัญญานี้จึงเป็นโมฆะ ผู้เสียหายจึงมาร้องกองปราบฯ เพราะโดนข่มขู่ถึงหน้าบ้าน ใช้ชีวิตลำบาก เบื้องต้นผู้เสียหาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อไปดำเนินคดีต่อที่ สน.พญาไท

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube