Home
|
อาชญากรรม

ป.ป.ส. แถลงผลงานปราบยาเสพติดไตรมาสแรก

Featured Image

 

 

ป.ป.ส. แถลงผลงานยาเสพติดร่วมกับภาคีเครือข่ายไตรมาสแรก พร้อมเผย เตรียมประสานตำรวจ สปป.ลาว ส่งตัวผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญ มั่นใจ หากจับตัวได้ยาเสพติดจะลดลงถึง 70%

 

 

 

วันนี้ (3 ม.ค. 66) ที่ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. และตัวแทนตำรวจปราบปรามยาเสพติด , กอ.รมน. กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลงานการปราบปรามยาเสพติด ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึง 31 ธันวาคม 2566 ตามปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดระยะ 1 ปี Quick Win และการแก้ไขปัญหายาเสพติดทุกมาตรการตามนโยบายของรัฐบาล

 

 

 

โดยผลการดำเนินงานด้านการสืบสวนปราบปรามของตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งเป็นผู้ค้ารายสำคัญ 268 คดี เพิ่มจากปีที่แล้ว 10% ยึดยาบ้ากว่า 200 ล้านเม็ด เพิ่มจากปีที่แล้ว 80% และยึดไอซ์ได้อีก 3 ตัน ในจำนวนนี้จับกุมเครือข่ายสำคัญรายใหญ่ได้ 1 เครือข่าย เป็นเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดข้ามชาติออกไปยังประเทศที่ 3 โดยจับกุมได้ขณะลำเลียงยาบ้ากว่า 50 ล้านเม็ดผ่านแนวชายแดนเข้ามาพื้นที่ชั้นใน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณมากที่สุดเท่าที่เคยจับกุมมา นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ค้ารายย่อยกว่า 23,000 คดี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 22.7% ยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้กว่า 709 ล้านบาท

 

 

 

ส่วน กอ.รมน. ที่มีการจัดตั้งหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด เคมีภัณฑ์และสารตั้งต้นชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ Taskforce 24 และชายแดนภาคเหนือ หรือ Taskforce 35 ที่มีการสกัดกั้นยาเสพติดเข้มข้น ขยายผลลาดตระเวน ตั้งด่านและจุดตรวจยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 372 คน ยึดยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ด และเฮโรอีน 0.8 กิโลกรัม มีการติดกล้องซูมเฝ้าระวังแม่น้ำโขง เพื่อเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงยาเสพติด

 

 

 

ส่วนในภาคการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้นำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดแล้ว 19,638 ราย จากเป้าหมาย 91,317 ราย คิดเป็น 21.51% พัฒนาพฤตินิสัยโดยกระบวนการยุติธรรมได้ 22,129 ราย จาก 66,300 ราย คิดเป็น 33.38% นอกจากนี้เป็นการบำบัดผ่านการมีส่วนร่วมของชุมนุมได้ 423 ราย

 

 

 

ส่วนการรักษาผู้มีอาการจิตเวชจากยาเสพติด ตามนโยบาย Quick Win ระยะที่ 1 ในพื้นที่เสี่ยง 85 อำเภอใน 30 จังหวัด มีเป้าหมายทั้งสิ้น 4,414 คน เข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว 1,052 คน คิดเป็น 24% นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยจิตเวชรายใหม่ 354 คน นำเข้าสู่การรักษาแล้ว 202 คน คิดเป็น 57%

 

 

 

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งขยายหอดูแลบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวชจากยาเสพติดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะแบ่งดูแลตามความร้ายแรงของอาการ ขึ้นผู้ป่วยสีแดง สีส้ม สีเหลือง และสีเขียว มีโรงพยาบาลจิตเวช 20 แห่ง โรงพยาบาลธัญญารักษ์ภูมิภาค 7 แห่ง และโรงพยาบาลระดับจังหวัด 127 แห่งดูแลผู้ป่วยสีแดง / มีโรงพยาบาลระดับอำเภอ 153 แห่ง ดูแลผู้ป่วยสีส้ม และสาธารณสุขชุมชน 776 แห่ง ดูแลผู้ป่วยสีเหลือง

 

 

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยอีกว่า ตนเองได้เดินทางไปพูดคุยกับ รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบและหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ สปป.ลาว เพื่อหารือความร่วมมือในการดำเนินคดีกับ 48 ผู้ต้องหารายสำคัญทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่หลบหนี โดยหนึ่งในนั้นคือนายอ่อง กิม วาห์ ผู้ต้องหายาเสพติดสัญชาติมาเลเซีย รายสำคัญอันดับ 1 ของ ป.ป.ส. ค่าหัว 1 ล้านบาท ซึ่งทาง สปป.ลาวตกลงจะส่งตัวนายอ่องให้ทางการไทยดำเนินคดีเร็วๆ นี้ ซึ่งจะสามารถลดการค้ายาเสพติดอย่างไอซ์ เฮโรอีน โคเคนได้ถึง 70% โดยเครือข่ายของนายอ่องเป็นเครือข่ายใหญ่มาก เจ้าหน้าที่ไทยจับกุมยาบ้าได้กว่า 4.4 ตัน และนายอ่องมีบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาเลเซียถึง 8 บริษัท มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube