กต.-ก.ท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกญาติผู้เสียชีวิต จีน-เมียนมา เดินทางมาไทย พร้อมจัดพิธีทางศาสนา เผย ประสานทางการฑูตสร้างความเข้าใจเหตุการณ์ – ย้ำทำความเข้าใจ นทท.ต่างชาติ พร้อมกำหนด 4 มาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวกรณีเหตุการณ์พารากอน เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา
โดยนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ตนและนางสาว สุดาวรรณ ได้เดินทางไปยังสถานทูตต่างๆ เช่นสถานทูตจีน เมียนมา และสปป.ลาว เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับเอกอัครราชทูต และได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยผู้บาดเจ็บ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
ซึ่งผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก็มีอาการที่ดีขึ้น คาดว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้เร็วๆนี้
โดยในช่วงเช้ากระทรวงการต่างประเทศได้มีการประชุม ให้มีการเตรียมความพร้อมมาตรการต่างๆ โดยมาตรการการเยียวยาต่างๆ อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ด้านนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีชาวจีน เสียชีวิต 1 คน ซึ่งเมื่อวานนี้ทางญาติได้เดินทางมาถึง ไทยแล้วโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ไปรับ อำนวยความสะดวกในการเดินทาง รวมถึง พาไป พบญาติ ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาในตอนนี้
ในส่วนของการเยียวยามีคณะกรรมการ กองทุนเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งจะสามารถแจ้งรายละเอียดให้ทราบได้ภายในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ทรงรับไว้ในพระราชานุเคราะห์ ซึ่งในส่วนของการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บก็จะสามารถชี้แจงได้ในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน
ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะมีกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้ง 3 รายการนี้จะช่วยกันดูแล ผู้ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่ผู้เสียชีวิตชาวเมียนมา ในวันพรุ่งนี้แม่ของผู้เสียชีวิตจะเดินทางมาถึงไทย ซึ่งทางการไทยได้จัดเตรียมพิธีทางศาสนาไว้ให้ในประเทศไทย พร้อมย้ำว่าตอนนี้ได้สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และได้หารือถึงแนวทางป้องกันสำหรับพื้นที่ที่มีคนเยอะๆเช่นบริเวณห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะต้องหารือกันว่าจะมีการเพิ่มจุดตรวจอาวุธทางเข้าออกเพิ่มเติมหรือไม่
ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงต่างประเทศเอง หรือว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆก็ทำความเข้าใจกับทางการจีนรวมไปถึงนักท่องเที่ยว ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ว่าเป็นเหตุการณ์เดียวแล้วก็จบในครั้งเดียว และจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยขึ้นอย่างเข้มงวด
โดยเมื่อวานนี้ทางการไทยได้หารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งทางการจีนก็เข้าใจถึงประเด็น และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งทางการทูตจีนก็ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงไปยัง ประเทศจีนแล้วว่าทางการไทยสามารถควบคุมเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนายเศรษฐาทวีสินนายกรัฐมนตรีก็ได้ โทรศัพท์หาเพื่อทำความเข้าใจ จึงทำให้ทางการจีนเข้าใจ อย่างดีเช่นเดียวกัน
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้าไทยหรือไม่นั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ตอนนี้ ไม่อยากให้โฟกัสที่ตรงนั้น อยากให้โฟกัสถึงความปลอดภัยและเรื่องจิตใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา ส่วนเรื่องผลจำนวนของตัวเลข จะขอแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ภายใน 3 สัปดาห์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุเพิ่มเติม ถึงมาตรการป้องกัน ซึ่งมีถึง 4 มาตรการ มาตรการป้องกัน
มาตรการแรก คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในแหล่งชุมชน ในส่วนที่ 2 ได้ประสานไปยังกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขอความร่วมมือที่จะปิดเว็บไซต์ในการซื้อขาย วัตถุอาวุธปืน หรือดัดแปลงอาวุธปืนแล้ว พร้อมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง ในการนำเข้าหรือครอบครองปืน จะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทยเท่านั้น เพื่อป้องกันการซื้อขายได้ง่ายในกลุ่มเยาวชน ส่วนกรณี Application ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชน กระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็จะได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
