fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ตั้ง กก.สอบ 21 ตร.ทางหลวง ร่วมงานเลี้ยงกำนันนก

Featured Image
รรท.ผู้การทางหลวง สั่งตั้งกรรมการสอบ 21 ตร.ทางหลวง ร่วมงานเลี้ยงกำนันนก ตั้งกรอบ 20 วัน รู้ผล เน้นประเด็นเพิกเฉยไม่จับกุมมือปืนยิง สารวัตรแบงก์

 

 

 

ความคืบหน้า กรณี นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ “หน่อง ท่าผา” อายุ 45 ปี ลูกน้องของ นายปวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” ผู้กว้างขวางใน จ.นครปฐม ก่อเหตุยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. กลางงานเลี้ยงในบ้านพักของ “กำนันนก” ถึง 5 นัดซ้อนจนถึงแก่ชีวิต กระสุนยังโดน พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. บาดเจ็บ ภายหลังทางกำนันนกขอมอบตัว

 

 

ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของตร.ได้มีคำสั่งสอบ 21 นายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งทางพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ข้าราชการตำรวจในสังกัดบก.ทล. ตามที่ได้เสนอข่าวมานั้น

 

 

มีรายงานว่าในรายละเอียดคำสั่งดังกล่าว ทางพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. ลงนามคำสั่ง กองบังคับการตำรวจทางหลวงที่ 168/2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีใจความว่า ตามที่ มีข้าราชการตำรวจทางหลวงหลายนาย ได้รับเชิญจากนายปวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ให้ไปร่วมรับประทานอาหารเย็น ณ ลานหน้าบ้านเลขที่ 50หมู่ที่ 2ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

 

 

ในระหว่างนั้น นายปวีณ จันทร์คล้าย ได้พูดคุยกับพันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1กองกับการ 2กองบังคับการตำรวจทางหลวง และเกิดความไม่พอใจ มีปากเสียงกัน หลังจากนั้นนายธนัญชัยหรือหน่อง หมั่นมาก ซึ่งเป็นลูกน้องของนายปวีณ จันทร์คล้าย

 

 

เดินเข้ามาประชิดตัวแล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงไปที่ พันตำรวจตรี ผิวกร สายบัว หลายนัดจนได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา และกระสุนปืนบางนัดยังไปถูก พันตำรวจโท วศิน พันปี ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ซึ่งเบื้องต้นรับฟังข้อเท็จจริงได้ว่า ในขณะเกิดเหตุ มีข้าราชการตำรวจทางหลวงหลายนาย อยู่ในที่เกิดเหตุ

 

 

โดยที่การกระทำของนายธนัญชัย หมั่นมาก นั้น ถือได้ว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 ซึ่งบัญญัติให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจมีอำนาจทำการจับกุม แต่ข้าราชการตำรวจดังกล่าว กลับปล่อยให้ผู้กระทำผิดนั้นหลบหนีไปได้ ยังความสงสัยแก่ประชาชนทั่วไปว่า

 

 

เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การปฏิบัติงานของตำรวจทางหลวง นั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว รวมถึงเพื่อให้เกิดความชัดแจ้ง และความเป็นธรรม แก่ผู้ถูกกล่าหา อาศัยความตามหนังสือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง แนวทางและขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการและลูกจ้างในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วยบุคคล ดังต่อไปนี้ พันตำรวจเอก ณัฐพงษ์ ปีตะบุตร รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นประธานกรรมการ,พันตำรวจเอก ชวลิต ชวลิตพงศ์พันธุ์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจทางหลวงเป็นกรรมการ และพันตำรวจโท รุ่งวิทย์ ขวัญมาสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างเคร่งครัด และรายงานให้ทราบภายใน 20 วัน

 

 

อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่ตรวจสอบนั้นอยู่ด้วย ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทำการ ตรวจสอบต่อไป แล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว

 

 

เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์การปฏิบัติงานของตำรวจทางหลวง นั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว รวมถึงเพื่อให้เกิดความชัดแจ้ง และความเป็นธรรม แก่ผู้ถูกกล่าหา อาศัยความตามหนังสือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง แนวทางและขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีร้องเรียนข้าราชการตำรวจ พนักงานราชการและลูกจ้างในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

 

จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วยบุคคล ดังต่อไปนี้ พันตำรวจเอก ณัฐพงษ์ ปีตะบุตร รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เป็นประธานกรรมการ,พันตำรวจเอก ชวลิต ชวลิตพงศ์พันธุ์ ผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจทางหลวงเป็นกรรมการ และพันตำรวจโท รุ่งวิทย์ ขวัญมาสารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจทางหลวง เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างเคร่งครัด และรายงานให้ทราบภายใน 20 วัน

 

 

อนึ่ง ถ้าคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นว่ากรณีมีมูลว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคำสั่งนี้ หรือกรณีที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงพาดพิงไปถึงข้าราชการตำรวจผู้อื่นและ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาในเบื้องต้นแล้วเห็นว่า ข้าราชการตำรวจผู้นั้นมีส่วนร่วมหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำในเรื่องที่ตรวจสอบนั้นอยู่ด้วย ให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทำการ ตรวจสอบต่อไป แล้วรายงานให้ทราบโดยเร็ว

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube