Home
|
อาชญากรรม

ยุทธการทลายกลโกง หลอกเหยื่อลงทุน

Featured Image
ปอศ. เปิดยุทธการ ทลายกลโกง หลอกเหยื่อร่วมลงทุน เทรดเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 800 ล้านบาท

 

 

วันนี้ (27 ก.ค.66) พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) แถลงผลปฏิบัติการ ยุทธการ ทลายกลโกง หลอกเหยื่อร่วมลงทุน โดยจับกุม นายกิตติพลฯ กับพวก รวม 10 คน ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันนี้ 20 ก.ค. 66 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”

 

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ได้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ว่าถูกบุคคลทำการชักชวนและหลอกลวงให้ลงทุนร่วมเทรดหุ้นได้รับผลตอบแทนสูงผ่านทางช่องทางเฟซบุ๊ก โดยแอบอ้างเป็นบริษัทชื่อดังที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับให้คำปรึกษาและจัดการลงทุนให้แก่ลูกค้า

 

 

ในคดีนี้ผู้ต้องหาใช้วิธีการหลอกเหยื่อโดยให้เหยื่อทดลองเทรดด้วยเงินจำนวนไม่มาก ในช่วงแรกสามารถถอนเงินได้กำไรจริง เพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจ จนกระทั่งเหยื่อเพิ่มเงินลงทุนจำนวนมากขึ้นและประสงค์ทำการถอนเงินพร้อมกำไร ปรากฎว่าไม่สามารถถอนเงินได้ โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะใช้กลอุบายว่า ต้องทำการโอนเงินเพิ่มถึงสามารถถอนเงินได้ ทำให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 4,000,000 บาท

 

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินและความสัมพันธ์เส้นทางการเงินเบื้องต้นพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการโอนเงินต่อไปเรื่อยๆหลายชั้นและรวดเร็วมากเพื่อให้ยากต่อการติดตามเส้นทางการเงิน โดยจากการตรวจสอบพบมีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องจำนวน 18 บัญชี มีเงินหมุนรวมกว่า 800 ล้านบาท

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานพบผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจำนวน 16 ราย มีลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการเพื่อหลอกลวงและเมื่อตรวจสอบยังพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาแต่ละรายมีหมายจับในข้อหาเดียวกันอีกเป็นจำนวนมากและยังหลบหนีอยู่อีกด้วย

 

 

ต่อมาวันที่ 21-24 ก.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้สนธิกำลัง “เปิดยุทธการ ทลายกลโกง หลอกเหยื่อร่วมลงทุน” เข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหา ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพ, สุพรรณบุรี, อุทัยธานี, นครสวรรค์, กระบี่ จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการดังกล่าวได้ทั้งสิ้น จำนวน 10 ราย ส่วนเป้าหมายที่เหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าทำการติดตามจับกุมผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube