DSI สนธิกำลังร่วม กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง
วันนี้ (5 ก.ค. 66) ที่ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง นำโดย พันตำรวจตรี สุริยา สิงกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 หน่วยงาน สนธิกำลังร่วม กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุสุกรแช่แข็ง จำนวน 161 ตู้ซึ่งก่อนหน้านี้ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ตรวจยึดไว้แล้ว เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ามีการนำ สุกรแช่แข็ง ซึ่งเป็นของควบคุมการนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมปศุสัตว์
อธิบดี DSI กล่าวว่า จำนวนของกลาง ที่ตรวจสอบ ทั้ง หมด 4 ตู้คอนเทนเนอร์ จาก 161 ตู้ ปริมาณ มูลค่าความเสียหาย 460 ล้าน บาท จำนวนปริมาตรของกลางต้องรอการตรวจสอบให้ชัดเจน อีกครั้ง ว่า แต่ล่ะตู้ มีจำนวนเท่าไหร่ ของกลางก็จะมี หมูสามชั้น เนื้อหมู ขาหมู เครื่องในหมูบางส่วน ส่งข้ามชาติมากจากประเทศเยอรมนี ประเทศบราซิล และประเทศอาเจนติน่า
หลักๆที่เห็นในตู้คอนเทนเนอร์มาจาก 3 ประเทศด้วยกัน ส่วนใหญ่ของกลางจะส่งมาจากประเทศบราซิล เบื้องต้น อยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้ ในส่วนอื่นในการตรวจยึดและดำเนินคดีของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางพื้นที่ เช่น สมุทรสาคร ทาง DSI จะเข้าไปขยายผล ว่าในคดีต่างๆเหล่านั้น มีการดำเนินการจับกุมไว้ก่อนหน้านี้ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง เพื่อขยายผล ผู้อยู่เบื้องหลัง
เบื้องต้น ต้องระบุให้ชัดเจน ว่าของกลางที่นำมาผิดกฎหมาย หรือไม่ อย่างไร ส่วนใครที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า หมูเถื่อน ทั้งฝั่ง ผู้นำเข้า ในส่วนของภาคเอกชน และมีเจ้าหน้าที่คนใดที่ เกี่ยวข้อง ทาง DSI ต้องทำการสอบสวน ให้มีความชัดเจนมากขึ้น และการตรวจสอบ 161 ตู้ คาดการณ์ว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด ความชัดเจนในวันนี้ คือ 161 ตู้
เป็นเนื้อหมู และชิ้นส่วนของหมู ที่เป็นของควบคุมที่เราต้องดำเนินการ เพราะผิดกฎหมายในการนำเข้ามา ตาม พ.ร.บ โรคระบาดสัตว์ และสาเหตุที่ เปิดตู้คอนเทนเนอร์ ทั้ง 4 ตู้ที่บรรจุหมูเถื่อน นั้น ที่เห็นไม่เต็มตู้ ซึ่งทาง DSI เองก็จะได้ไปดำเนินการตรวจสอบ หาความจริง ในขณะนี้ ทาง DSI กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม แล้วจะรีบแจ้งให้ทราบ ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
