“อัจฉริยะ” ลุยแจ้งความ “ผบก.สส.ภ.1 – ผกก.สภ.เมืองนนท์ฯ” ลั่น ขอไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวแม่ ปมขายโทรศัพท์ให้บังแจ็ค
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป.เพื่อให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบก.สส.ภ.1) กับพวก
ฐานร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จในการแถลงข่าววันที่ 26 เมษายน 2565 ในการแก้ไขเวลาคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดนาทีที่ 22.18 อันเป็นเท็จ และร้องกล่าวโทษ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ในข้อหาแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาเพื่อยื่นเรื่องกล่าวโทษกับผู้กำกับสภ.เมืองนนทบุรี ในข้อหาแจ้งความเท็จ, แจ้งพนักงานเกี่ยวกับข้อความอันเป็นเท็จและกลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา จากกรณีที่ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรีได้เข้าแจ้งความนายอัจฉริยะ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
ซึ่งนายอัจฉริยะยังได้แจ้งความกับ ผบก.สส.ภ.1 ในมาตรา 157 กับ 184 จากการแถลงข่าวโดยใช้คลิปวิดีโอที่เป็นเท็จเพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้พ้นผิดหรือได้รับโทษน้อยลง โดยนายอัจฉริยะ มีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นไปตามที่แถลงในวันที่ 26 เมษายน
โดยนายอัจฉริยะ กล่าวว่าสถานที่ในภาพที่เผยแพร่ขณะแถลงนั้นคือบริเวณวัดจันทร์ไม่ใช่สะพานซังฮี้อย่างที่ได้แถลง ซึ่งมีระยะห่างกันถึง 1,600 เมตร
นายอัจฉริยะยังได้กล่าวว่าได้มีการพูดคุยกับนางภนิดา หรือแม่ของแตงโมเมื่อคืนที่ผ่านมาเรื่องที่นายอัจฉริยะได้รับเป็นที่ปรึกษาให้กับแม่ โดยตนจะรับผิดชอบดูในเรื่องทางกฎหมายและคดี ส่วนส.ส. เต้ มงคลกิตติ์ จะดูแลแม่ในเรื่องการอำนวยความสะดวก ไปรับ-ส่ง
โดยยืนยันว่าในทีมนั้นไม่มีทนายกฤษณะร่วมวงด้วย อีกทั้งการที่นายอัจฉริยะได้เป็นที่ปรึกษาได้ยืนยันว่าจะไม่มีการฟ้องร้องใครเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นนักข่าว ทนายเดชา หรือทนายตั้ม
ซึ่งหากนางภนิดาร้องขอให้ฟ้องตนก็จะไม่ฟ้อง ยืนยันว่าไม่ได้คิดมากเรื่องแม่เปลี่ยนทนายบ่อย มั่นใจว่าตนเอาอยู่ อีกทั้งหากแม่ได้มอบสิทธิตามกฎหมายจะทำให้ตนทำงานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ จากการพูดคุยกับแม่ของแตงโม นายอัจฉริยะ เผยว่า สาเหตุที่แม่เปลี่ยนมาเชื่อว่าเป็นเป็นการฆาตกรรมเนื่องจากยังมีบางสิ่งที่แม่ยังสงสัย อาทิ รูปภาพและวิดีโอที่ถูกลบออกจากโทรศัพท์ของแตงโมกว่า 500 ไฟล์
เมื่อทนายความเดิมของแม่ปิดกั้นจึงไม่รู้ว่าจะปรึกษาใครและโดดเดี่ยว ทำให้เมื่อบังแจ็คเข้ามาพูดคุยและอ้างว่าสามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ แม่ที่อยากรู้คำตอบจึงได้ส่งโทรศัพท์ของแตงโมไปให้
ซึ่งนายอัจฉริยะ ยังได้กล่าวว่า ประโยชน์ของบังแจ็คนั้นยังมี แต่สิ่งที่ไม่ควรทำบังแจ็คก็กลับทำ สมควรถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ข้อดีของบังแจ็คก็คือการที่สามารถกู้รูปภาพได้
ส่วนประเด็นว่าแม่ขายโทรศัพท์แตงโมจริงหรือไม่ นายอัจฉริยะตอบว่าขอไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของแม่
สำหรับหลักฐานชิ้นสำคัญที่นายอัจฉริยะได้อ้างว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุอย่างชัดเจนนั้น ยังต้องรอดูว่าในวันนี้อัยการจะมีความเห็นว่าอย่างไร แล้วตนจะปรับเปลี่ยนแผนตามคำสั่งของอัยการยืนยันว่าตนทำงานและหาหลักฐานด้วยความละเอียดรอบคอบ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
