Home
|
อาชญากรรม

ตร.ถกร่วมเอกชนแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์

Featured Image
ผบ.ตร. ประชุมภาครัฐ-เอกชน แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

 

วันนี้ (12 พ.ค. 65) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.กรชัย คล้ายคลึง ผบช.สอท., ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย, สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ, กสทช., ป.ป.ง. และ ก.ล.ต. ร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมทางออนไลน์ ซึ่งขณะนี้กำลังระบาดหนัก เช่น ปัญหาบัญชีม้า และการโอนเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัลของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

ผบ.ตร. กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์เมื่อวันที่ 1 มี.ค.-30 เม.ย. 65 พบผู้เสียหายแจ้งความผ่านระบบ 20,400 คดี เสียหายเฉลี่ย 1,500 ล้านบาทต่อเดือน และแจ้งความเฉลี่ยวันละ 300 คดี ส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวงด้านการเงิน โดยคนร้ายเปลี่ยนรูปแบบวิธีการตลอดเวลา มักโทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต รวมทั้งมีการจ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีม้า และใช้การแลกเปลี่ยนเงินแบบดิจิทัล ซึ่งยากต่อการอายัดและระบุตัวผู้กระทำผิดได้ยาก

 

ทั้งนี้ จากการหารือเบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะกำหนดจำนวนบัญชีที่สามารถเปิดได้ อายัดจำกัดวงเงิน และจัดทำฐานข้อมูลกลางเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีม้า และระงับบัญชีม้าด้วยหมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ รวมทั้งให้ธนาคารจัดทำช่องทางอายัดเงินด้วยตนเองผ่านแอปฯ และเชิญคู่กรณีไกล่เกลี่ยภายใน 3 วัน

 

ด้านสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะยึดอายัดทรัพย์สิน เงินดิจิทัล ติดตามเส้นทางการเงินที่เข้าข่ายเป็นความผิด และแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศดำเนินคดีกับผู้ค้าขายเหรียญแบบ peer-to-peer และวางแนวทางยึดเหรียญคริปโตฯจากผู้กระทำผิด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ กสทช. สนับสนุนงบประมาณ สร้างกลไกระบุตัวตนตามกฎหมาย โดยออกประกาศกำหนดจำนวนซิมสูงสุด 5 ซิมต่อคน หากจำเป็นต้องเปิดมากกว่ากำหนด ต้องยื่นเรื่องให้ กสทช. พิจารณา

 

พร้อมแก้ปัญหาคนร้ายส่งข้อความโฆษณา หรือปลอมเบอร์โทรศัพท์ โดยบังคับให้แสดงเป็นเลขศูนย์ทั้งหมด หรือไม่แสดงหมายเลข และระงับเส้นทางการเชื่อมต่อ รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลกลางตรวจสอบชื่อผู้ลงทะเบียนซิม และประวัติการรับส่งข้อความย้อนหลัง

 

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตำรวจทำการสืบสวนอย่างโดดเดี่ยว คนร้ายใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย การทำงานจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน เชื่อว่าอาชญากรรมออนไลน์จะลดลงได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube