รู้จัก Mascot Marketing จากตัวการ์ตูนสู่กลยุทธ์ทางการตลาด
Mascot Marketing เมื่อการ์ตูนกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด
ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะมองไปทางไหน แบรนด์ต่าง ๆ หรือแม้แต่ดารานักแสดง ต่างก็มีมาสคอตเป็นตัวแทนของตัวเอง จนหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมมาสคอตถึงถูกหยิบยกมาใช้ในเชิงการตลาด ในบทความนี้จึงจะพามาทำความเข้าใจกลยุทธ์ทางการตลาดที่เรียกว่า “Mascot Marketing” ว่าคืออะไร และทำไมแบรนด์ต่าง ๆ จึงเลือกใช้วิธีนี้
Mascot Marketing คืออะไร
Mascot Marketing คือการใช้มาสคอต หรือตัวการ์ตูนแทนสัญลักษณ์ของแบรนด์ ทำหน้าที่โปรโมทและสร้างภาพจำของแบรนด์ผ่านบุคลิกของมาสคอต เช่น น้องหมีเนย ที่ทำให้ผู้คนรู้จักแบรนด์คาเฟ่ขนมหวานสัญชาติไทยมากขึ้น หรือ Ronald McDonald ตัวตลกซึ่งเป็นภาพจำของ McDonald’s

Mascot Marketing ไม่ใช่กลยุทธ์ทางการตลาดที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่มีมานานแล้ว เพียงแต่ในอดีตมาสคอตไม่ได้รับความนิยม และไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
จนกระทั่งมาถึงยุคที่โซเชียลมีอิทธิพล จึงทำให้ผู้คนต่างก็ถ่ายรูปมาสคอตน่ารัก ๆ ลงในโซเชียลของตัวเอง กลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้แบรนด์ได้กระแสทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์ จนมาสคอตบางตัวได้รับความนิยมถึงขั้นมีแฟนด้อมเป็นของตัวเอง
ทำไมแบรนด์เลือกใช้มาสคอตทำการตลาด
มาถึงคำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ทำไมแบรนด์เลือกใช้มาสคอตทำการตลาด” คำตอบคือมาสคอตไม่ได้เป็นเพียงตัวการ์ตูน แต่คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ ผ่านมิติต่าง ๆ ดังนี้
- ทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ได้: การใช้มาสคอตที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน จะช่วยให้ผู้คนจดจำมาสคอตได้ จึงทำให้แบรนด์เลือกมาสคอตมาใช้เป็นเครื่องมือสร้างการจดจำแบรนด์
- สร้างความแตกต่าง: มาสคอตที่มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการมีท่าประจำตัว เต้นเก่ง หยอกล้อกับผู้คน จะช่วยสร้างความแตกต่างกับแบรนด์อื่น ๆ อย่างชัดเจน
- เพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์: สืบเนื่องมาจากการที่มาสคอตมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน จะช่วยให้ผู้คนจดจำมาสคอตได้ และทำให้อยากติดตามความเป็นไปของเจ้ามาสคอตและแบรนด์มากขึ้น
- เพิ่มโอกาสในการขาย: ถ้าหากมาสคอตได้รับความนิยม และผู้คนติดตามมาสคอต จะช่วยเชื่อมความรู้สึกระหว่างแบรนด์กับลูกค้า ช่วยสร้างความประทับใจที่ยั่งยืน และส่งผลดีต่อการตัดสินใจซื้อ ทำให้โอกาสในการขายได้มากขึ้น
- บรรยายเรื่องราวของแบรนด์: ถ้าหากเทียบกับโลโก้หรือโฆษณาแบนเนอร์ มาสคอตจะมีการแสดงออกของท่าทางต่าง ๆ ซึ่งจะสื่อสารและดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนจดจำเรื่องราวของแบรนด์ผ่านมาสคอต
- สร้างคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลาย: มาสคอตจะสามารถนำมาสร้างคอนเทนต์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งในรูปแบบของวิดีโอ รูปภาพ การ์ตูน ทำให้การสื่อสารกับผู้บริโภคมีความน่าสนใจและไม่จำเจ
ตัวอย่างมาสคอตแบรนด์ดัง
หลังจากรู้จักกลยุทธ์ Mascot Marketing และสาเหตุที่แบรนด์ต่าง ๆ เลือกใช้กลยุทธ์นี้แล้ว จะพามาดูตัวอย่างมาสคอตจากแบรนด์ดังต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น
- น้องหมีเนย: น้องหมีเนย หรือ Butterbear เป็นมาสคอตของ Butter bear Café ร้านขนมหวานในเครือ Coffee Beans by Dao ซึ่งเป็นที่รู้จักจากรูปลักษณ์ที่น่ารักอวบอ้วน น่ารัก น่าเอ็นดู มีท่าเต้นที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ จนสามารถครองใจแฟน ๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศได้อย่างล้นหลาม
- มิสมาดาม: มิสมาดาม เป็นมาสคอตของสวนสนุกดรีมเวิล์ด มีรูปร่างเป็นสุนัขสีดำเข้ม มีคอสตูมที่โดดเด่น ด้วยสีสันเสื้อผ้าที่ตัดกันจัดจ้าน และโบว์สีแดงบนหัว มาพร้อมกับท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
- น้องกล้วยกรุงศรี: น้องกล้วยกรุงศรี เป็นมาสคอตของแบรนด์กรุงศรี มาพร้อมกับรอยยิ้มและบุคลิกที่กระตือรือร้น สนุกสนาน เข้าถึงง่าย ชอบเต้นเป็นชีวิตจิตใจ จนทำให้ภาพจำของมาสคอตตัวนี้เป็นการเต้นด้วยท่าทางต่าง ๆ
- นาก Otteri: นาก Otteri มาสคอตขี้โวยวายจากแบรนด์ร้านสะดวกซัก ซึ่งนอกจากการเต้นแล้ว ยังมีจุดเด่นอีกอย่างคือสามารถพูดได้ ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ผนวกกับหน้าตาที่ดูโมโหตลอดเวลา จึงทำให้ผู้คนจดจำเจ้ามาสคอตตัวนี้ได้เป็นอย่างดี
- โพก้าซัง: ยัยซัง หรือโพก้าซัง เป็นมาสคอตที่ไม่ได้มาจากแบรนด์ แต่มาจากนักแสดงอย่าง “เต ตะวัน” และ “นิว ฐิติภูมิ” เป็นมาสคอตหมีครึ่งวาฬสุดครีเอท ที่ทำให้แฟนคลับหลงรักตั้งแต่แรกเห็น และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ในปัจจุบัน มาสคอตไม่ใช่เพียงตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ แต่ยังสามารถนำมาใช้ในเชิงกลยุทธ์ทางการตลาดได้อีกด้วย เพราะผู้คนไม่ได้จดจำแบรนด์จากโลโก้หรือสโลแกน แต่จดจำจากท่าทางกวน ๆ ของมาสคอต ซึ่งเชื่อมความรู้สึกระหว่างแบรนด์กับผู้คนได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





