Home
|
เพลง

“เมื่อตัวตนที่แข็งแกร่งของวงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่แนวเพลง” ย้อนรอย 5 ปีแห่งการเดินทางของเหล่าแวมไพร์ทั้ง 7 ‘ENHYPEN’

Featured Image
“เมื่อตัวตนที่แข็งแกร่งของวงไม่ได้จำกัดอยู่แค่ที่แนวเพลง” ชวนย้อนรอยวิเคราะห์เส้นเรื่องตลอด 5 ปีแห่งการเดินทางของเหล่าแวมไพร์ทั้ง 7 ‘ENHYPEN’

          หากพูดถึงบอยกรุ๊ปที่มาแรงที่สุดในช่วงเวลานี้ เชื่อว่า ENHYPEN คงเป็นชื่อที่โผล่ขึ้นมาในใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน หลังจากสร้างปรากฏการณ์ในการขึ้นแสดงบนเวทีระดับโลกอย่าง Coachella 2025

ด้วยกระแสตอบรับที่ถล่มทลาย พวกเขาจึงกลับมาอีกครั้งในปีนี้ กับอัลบั้ม Desire: Unleash และไตเติลแทร็ก Bad Desire (With or Without You) ซึ่งได้นำมาขึ้นแสดงบนคอนเสิร์ต ‘WALK THE LINE IN BANGKOK’ ณ ราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ให้เอนจีนชาวไทยหายคิดถึงกันอีกด้วย

นอกจากความสามารถด้านการร้อง เฟอร์ฟอร์แมนซ์ที่ยอดเยี่ยม หรือวิชวลที่จึ้งสะกดทุกสายตาแล้ว อีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้ ENHYPEN มีความโดดเด่น ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นของอุตสาหกรรมเพลงอย่างชัดเจน คือ “เส้นเรื่อง” ที่มีเอกลักษณ์

ซึ่งเริ่มต้นจากคอนเซปต์ “แวมไพร์” และค่อย ๆ ต่อยอดเรื่องราวจนนำไปสู่การสร้างสรรค์การ์ตูนบนเว็บคอมิกอย่างเรื่อง ‘Dark Moon’ จนไปถึงการร่วมมือกับผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในการผลิตภาพยนตร์สั้น

วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของ “จักรวาลแวมไพร์” และร่วมเดินทางไปพร้อม ๆ กันกับเด็กหนุ่มทั้งเจ็ด ในการเผชิญหน้าท้าทาย “โชคชะตา” ที่ไม่อาจลิขิตได้ด้วยมือของใคร นอกจากตัวของพวกเขาเอง

 

แต่ก่อนจะไปเข้าสู่เนื้อหา เรามารู้จักกับหนุ่ม ๆ ENHYPEN กันคร่าว ๆ เพื่อให้การวิเคราะห์เป็นไปอย่างลื่นไหลกันก่อนดีกว่า !

“1, 2 Connect!”

ENHYPEN บอยกรุ๊ปวงแรกของค่าย Belift Lab ซึ่งประกอบด้วย 7 สมาชิกจากผู้ชนะรายการเซอร์ไววัลอย่าง ‘I-LAND’ ออกอากาศและเปิดตัววงภายในปี 2020  โดยชื่อวงมีที่มาจากสัญลักษณ์ HYPHEN (-) ที่ใช้ในการเขียนแสดงถึงการเชื่อมต่อกันของคำเพื่อสร้างความหมายใหม่ ดังนั้น ENHYPEN จึงเป็นวงที่สมาชิกจะเชื่อมต่อถึงกัน ค้นพบ และเติบโตไปพร้อมกัน

 

จองวอน (JUNGWON)

ยาง จองวอน (2004)

สัญชาติ : เกาหลีใต้

ตำแหน่ง : หัวหน้าวง

 

ฮีซึง (HEESEUNG)

อี ฮีซึง (2001)

สัญชาติ : เกาหลีใต้

 

เจย์ (JAY)

พัค จงซอง (2002)

สัญชาติ : เกาหลีใต้ – อเมริกา

 

เจค (JAKE)

ชิม แจยุน (2002)

สัญชาติ : เกาหลีใต้ – ออสเตรเลีย

 

ซองฮุน (SUNGHOON)

พัค ซองฮุน (2002)

สัญชาติ : เกาหลีใต้

 

ซอนอู (SUNOO)

คิม ซอนอู (2003)

สัญชาติ : เกาหลีใต้

 

นิกิ (NI-KI)

นิชิมูระ นิกิ (2005)

สัญชาติ : ญี่ปุ่น

 

ช่องทางการติดตาม

IG : @enhypen

X : @enhypen_official & @enhypen_members

Youtube : @ENHYPEN

 

การพบกันครั้งแรกของเด็กหนุ่มกำพร้าทั้งเจ็ดแห่งแวมฟิลด์

ENHYPEN (엔하이픈) ‘Given-Taken’ Official MV 

 

Given or Taken ?

จะเป็นผู้ที่ไล่ล่าความฝันของตัวเอง หรือจะเป็นผู้ยอมสดุดีต่อสิ่งที่ถูกลิขิตไว้ ?

          “แวมฟิลด์” (Vamfield) คือสถานที่ที่เปรียบดั่งจุดเริ่มต้นของชีวิตทั้งเจ็ด เด็กกำพร้าที่เติบโตภายใต้การดูแลของมาร์จ สภาพแวดล้อมที่ดูเงียบสงบจากภายนอก ทว่าภายในบ้านหลังนี้ กลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำและความผิดปกติอีกมากมายที่ไม่มีแม้แต่ทางออกให้แก่เหล่าเด็กน้อยผู้น่าสงสาร

 

          ในมิวสิกวิดีโอ เราจะเห็นท่าทางของสมาชิกที่ดูทุรนทุรายและทุกข์ทรมาน อย่าง นิกิ ที่ถูกตรึงไว้ด้วยโซ่ที่ข้อเท้า ราวกับนักโทษ สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงพันธนาการที่ไม่ใช่เพียงแค่ทางร่างกาย แต่รวมถึงตัวตนภายในของพวกเขาด้วย ตัวตนของ “แวมไพร์” ที่ถูกกดทับไว้ไม่ให้ปลดปล่อยมันออกมา 

          ฮีซึง อาจเป็นสมาชิกคนแรกที่เริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติในตัวเอง จึงปรากฏฉากที่เขาทานยาเพื่อระงับอาการบางอย่าง ขณะที่ ซอนอู เองก็ได้แสดงให้เห็นว่าตัวเขาได้กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ปีศาจดูดเลือด” โดยสมบูรณ์แล้ว ผ่านการกัดคอของจองวอน ซึ่งเป็นการส่งต่อพันธะทางสายเลือดที่จะเปลี่ยนชีวิตของผู้รับมอบพันธะไปตลอดกาล

คีย์เวิร์ดสำคัญของเพลงนี้คือคำว่า “Fate” หรือ “โชคชะตา” ซึ่งจะเป็นคำที่ปรากฏบ่อยครั้งบนเรื่องราวในจักรวาล ENHYPEN นับตั้งแต่นี้ไป ดังนั้นคำว่า Given-Taken ที่มีสัญลักษณ์ Hyphen (-) มาคั่นกลางในจุดเริ่มต้นของจักรวาล

จึงสื่อถึงสองทางแห่งความสับสนในโชคชะตา ว่าสิ่งที่ได้มา คือโอกาสในการเดบิวต์บนเส้นทางไอดอล เป็นสิ่งที่พวกเขาได้รับมันมาเพราะโชคชะตากำหนด หรือได้มาเพราะการไขว่คว้าโอกาสนั้นด้วยสองมือของพวกเขาเอง 

 

          คำว่า โชคชะตา เลยอาจนำไปสู่การตีความเนื้อหาในมิวสิกวิดีโอ ว่าเด็กหนุ่มทั้งเจ็ดจะเลือกยอมรับต่อสิ่งที่โชคชะตากำหนดไว้ โดยการอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลังนี้ต่อไป หรือจะเป็นผู้ที่ควบคุมโชคชะตาเพื่อออกไปกำหนดชีวิตของตัวเอง

ตามเรื่องเล่าที่กล่าวขานต่อกันมา ว่าปีศาจดูดเลือดไม่สามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดได้ มิเช่นนั้น ร่างกายของพวกเขาหรือพวกเธอจะต้องถูกเผาผลาญจนกลายเป็นผุยผง แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว เด็กน้อยทั้งเจ็ดคนยังคงยืนหยัดที่จะไม่หลบอยู่ภายใต้ร่มเงาของบ้านกำพร้าหลังนี้อีกต่อไปอย่างไร้ซึ่งความกลัว 

 

          ฉากยิงลูกศรในที่กลางแจ้งของเหล่าสมาชิกจึงสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมที่จะพุ่งไปข้างหน้าเพื่อเผชิญกับความไม่แน่นอนในอนาคตด้วยความกล้าหาญ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อหลุดพ้นจากพันธนาการที่ตรึงไว้ และก้าวไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “อิสระ” หรือโลกใบใหม่ในฐานะแวมไพร์ ละทิ้งความสับสนที่อยู่ภายในจิตใจ เดินหน้าแสดงให้แฟน ๆ ได้เห็นถึงศักยภาพของวงเพื่อเติบโตในอุตสาหกรรมนี้อย่างไร้ขีดมาจำกัดในฐานะศิลปิน

ความน่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือองค์ประกอบภาพในมิวสิกวิดีโออย่างการเลือกใช้โทนสีน้ำตาล เพื่อสื่อถึงกลิ่นอายแห่งความทรงจำ ความหลัง หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต อีกทั้งทำนองเพลงที่แฝงความลึกลับและชวนให้รู้สึกพิศวงอลเวงราวกับภาพยนตร์สยองขวัญ ก็มีส่วนช่วยทำให้เรื่องราวดำเนินไปได้อย่างมีมิติมากขึ้น

 

มนุษย์หมาป่าแห่งเมือง The Gray City ศัตรูของแวมไพร์เมืองแวมฟิลด์ ?

ENHYPEN (엔하이픈) ‘Drunk-Dazed’ Official MV

 

          ในช่วงต้นของมิวสิกวิดีโอเพลง Drunk-Dazed เราจะเห็นสมาชิกบางส่วนกำลังเดินทางไปยังสถานที่หนึ่ง พร้อมกับทิ้งบางสิ่งบางอย่างเอาไว้อย่างไม่ทราบเจตนา ไม่นานหลังจากนั้น มีเด็กสาวปริศนาได้มาพบเข้า และเมื่อพิจารณาสิ่งนั้นจึงทราบได้ทันทีว่ามันคือบัตรเชิญสำหรับเข้าร่วมงาน “Bloody Birthday Party” ที่แค่ฟังชื่อก็สัมผัสได้ถึงความสยองขวัญอยู่ไม่น้อย 

เธอผู้นั้นมัวแต่พิจารณาสิ่งที่อยู่ในมือจนไม่รู้ตัวเลยว่า มีร่างลึกลับสองชีวิตกำลังติดตามเธอมาอย่างเงียบเชียบ ถึงแม้มองภายนอกด้วยตาเนื้อ เขาทั้งคู่ก็ดูเหมือนมนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่หากเราอดทนดูต่อไปอีกนิด ผลลัพธ์ของวัตถุที่กระทบแสงจนกลายเป็นเงา สะท้อนให้เห็นถึงร่างจริงที่พวกเขาซ่อนเอาไว้ คือร่างของ “มนุษย์หมาป่า” หรือ “แวร์วูฟ” ยังไงล่ะ

 

หลายคนที่เป็นคอหนังหรือหนอนหนังสือ คงจะเคยได้ยินกันมาบ้างว่า แวมไพร์กับแวร์วูฟเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ลงรอยกัน แต่เคยมีใครสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า แล้วอะไรกันนะที่เป็นสาเหตุของความเกลียดชังระหว่างสองเผ่าพันธุ์นี้?

จริง ๆ แล้วข้อสงสัยนี้ก็ไม่ได้มีทฤษฎีหรือเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มารองรับในการอธิบายอย่างตายตัวมากนัก แต่บ้างก็ว่าเป็นปกติของมุมมองนักล่าที่จะมองสิ่งมีชีวิตต่างเผ่าพันธุ์ในสถานะที่ด้อยกว่าตนเอง บ้างก็ว่ามนุษย์หมาป่าเกลียดชังแวมไพร์เพราะเผ่าพันธุ์ถูกบังคับให้เป็นทาสรับใช้

 

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าเกี่ยวกับการไม่ลงรอยกันของทั้งสองเผ่าพันธุ์นี้ได้ส่งต่อกันมาเป็นทอด ๆ จนกลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของผู้เขียนในเวลาต่อมาอีกมากมาย เช่น Twilight เรื่องราวความรักระหว่าง แวมไพร์ แวร์วูฟ และมนุษย์ หรือแม้แต่เรื่องราวในจักรวาลของ ENHYPEN เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

     

          ซึ่งมนุษย์หมาป่าทั้งสองที่พวกเราเห็นกัน เค (K) และ อึยจู (EJ) คือมนุษย์หมาป่าแห่งเมือง The Grey City เป็นเส้นเรื่องราวของวง &TEAM บอยกรุ๊ปสัญชาติญี่ปุ่นที่เปิดตัวในปี 2022 และมีสมาชิกบางส่วนเคยเป็นผู้เข้าร่วมรายการ I-LAND

เช่นเดียวกับสมาชิกวง ENHYPEN หากอ้างอิงตามเรื่องราวจาก WEBTOON สามารถกล่าวได้ว่าเส้นเรื่องของทั้งสองวงมีความเชื่อมโยงกันในฐานะศัตรูต่างเผ่าพันธุ์ ซึ่งไม่ต่างจากเรื่องเล่าที่สืบทอดต่อ ๆ กันมา

กลับมากันที่งานปาร์ตี้เลือด ดูเหมือนว่าสมาชิกทั้งเจ็ดจะ “ตื่นรู้” ถึงตัวตนที่แท้จริง และพลังพิเศษเฉพาะตัวที่ตนเองมีเข้าแล้ว สังเกตได้จาก เจค ที่สามารถจุดเทียนให้สว่างไสวได้ด้วยมือเปล่าภายในพริบตาเดียว หรือ ฮีซึง ที่สามารถสื่อสารกับ เจย์ ผ่านกระแสจิตได้

 

เนื้อเรื่องในมิวสิกวิดีโอค่อย ๆ นำพวกเราไปสู่จุดสำคัญ สมาชิกทุกคนในวงต่างยืนเรียงแถวกันในชุดที่คล้ายสไตล์ยุโรปโบราณ ตรงหน้าของพวกเขาปรากฏให้เห็นร่างของเจ้าหญิงผู้สูงส่งยืนอยู่บนแท่นบูชาพระจันทร์ ซึ่งคาดกันว่าเธอคือ “เจ้าหญิงเซเลน” ที่พวกเขาเคยอารักขาเมื่อชาติภพก่อนหน้า จึงดูเหมือนว่าการพบกันของสมาชิกทั้งเจ็ดนั้น ไม่น่าใช่ความบังเอิญแต่อย่างใด ซ้ำยังอาจมาจากการทำพิธีกรรมผูกไว้ด้วยสื่อกลางที่เรียกว่า “เลือด”  ของเธอ

 

หากเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นนั้นจริง ก็ไม่แน่ว่า เจ้าหญิงองค์นี้เป็นผู้ที่นำพาตัวตนของแวมไพร์มาสู่องครักษ์ทั้งเจ็ดเพื่อคุ้มครองเธอและอาณาจักร รวมถึงเด็กสาวปริศนาเมื่อต้นวิดีโอ อาจคือ เซเลน ในฐานะตัวตนของกาลปัจจุบันก็เป็นได้

อีกหนึ่งจุดสำคัญที่อาจเป็นเบาะแสชิ้นใหญ่ของเรื่องราวในจักรวาลนี้ คือบทบาทของซอนอู ที่ดูจะมีความเชื่อมโยงกันกับเจ้าหญิงเซเลนมากเป็นพิเศษ สังเกตได้จากภาพของทั้งสองที่ทับซ้อนกันในระหว่างพิธีกรรมเทเลือด ราวกับว่าเธอและเขาเป็นคนคนเดียวกันอย่างไรอย่างนั้น หรือก็อาจเป็นไปได้อีกเช่นกันว่า ซอนอู จะเป็นสมาชิกที่ถูกเลือกให้เป็นสื่อกลางระหว่างเจ้าหญิงและองครักษ์ทั้งเจ็ด

เมื่อเห็นได้ชัดแล้วว่า “เลือด” เป็นหนึ่งในสิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขากับโชคชะตา การดำเนินวิดีโอในช่วงหลังจึงเน้นไปที่ภาพของสายเลือดที่กำลังหลั่งไหลออกมาราวกับสายฝน ท่ามกลางการเต้นรำอันงดงามของ ซองฮุน ก่อนจะจบลงด้วยเสียงเคาะประตูของเด็กสาวคนเดิมที่ตัดสินใจมาตามบัตรเชิญ พร้อมกับปมปริศนาอีกมากมายที่ทิ้งเอาไว้เพื่อรอการคลี่คลายในอนาคต

 

ความลับของแวมไพร์ ที่ดูเหมือนจะเปิดเผยมากขึ้นทีละนิด 

ENHYPEN (엔하이픈) ‘Tamed-Dashed’ Official MV

 

          สิ่งแรกที่น่าสนใจของอัลบั้มนี้ Dimension : Dilemma คือชื่อของเวอร์ชั่นที่ถูกแบ่งออกเป็นสามคอนเซปต์ ได้แก่ Scylla, Odysseus, และ Charybdis ซึ่งอ้างอิงจากตัวละครในวรรณกรรม “มหากาพย์โอดิสซี”

ผลงานระดับโลกของกวีเอกอย่าง “โฮเมอร์” เรื่องราวของโอดิสซีอุส นักรบผู้เดินทางกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นสงครามโทรจัน (Trojan War) แต่กลับต้องพบเจอกับบทลงโทษจากเทพเจ้าด้วยการสาปให้หลงทางอยู่บนผืนท้องทะเลนานนับสิบปี

มาเริ่มกันที่ตำนานอสูรกายตนแรก Scylla สัตว์ประหลาดที่มีหกหัว คอทั้งหมดมีรูปร่างคล้ายงู กล่าวกันว่าเดิมทีนางเป็นมนุษย์ แต่ถูกสาปให้กลายเป็นอสูรเพราะความริษยาของแม่มดไซซี บางตำราก็ว่าเพราะความอกตัญญูของนาง จึงทำให้ต้องกลายเป็นปีศาจแห่งท้องทะเลที่คอยกลืนกินลูกเรือที่เดินเรือผ่านช่องแคบเมสซีนา รวมถึงลูกเรือบางส่วนของโอดีซีอุสด้วย

ส่วน Charybdis หรือปีศาจน้ำวน มีความสามารถในการดูดกลืนและพ่นน้ำทะเลออกมาจนก่อให้เกิดน้ำวนยักษ์ได้ ทำให้เรือลำใดที่เผลอแล่นผ่านต่างถูกดูดกลืนลงไปราวกับว่านี่คือ หลุมแห่งหายนะ

การออกเผชิญบนโลกใบใหม่ของเหล่าแวมไพร์ทั้งเจ็ดอาจเปรียบได้กับการผจญภัยโลกกว้างบนท้องทะเลอย่างไม่รู้จบของโอดิสซีอุส โดยที่อสูรกายทั้งสอง อาจสื่อถึงอุปสรรคหรือข้อจำกัดในตัวเองที่พวกเขาจำเป็นต้องต่อสู้กับมัน จึงมีความเป็นไปได้ที่ตำนานมหากาพย์โอดิสซีจะถูกหยิบยกมาเกี่ยวข้องกับ ENHYPEN ในฐานะเวอร์ชั่นของอัลบั้มในคัมแบ็กนี้

 

ย้อนกลับมาวิเคราะห์ในส่วนของมิวสิกวิดีโอไตเติลแทร็ก Tamed-Dashed สมาชิกยังคงดูกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะใช้ชีวิตกลางแจ้ง เห็นได้จากท่าทีของ นิกิ ซึ่งเต็มไปด้วยความลังเล เนื่องจากมิวสิกวิดีโอก่อนหน้าอย่าง Given-Taken และ Drunk-Dazed จะเน้นการดำเนินเรื่องในช่วงกลางคืนหรือการอยู่ในที่ร่มเป็นหลักเสียมากกว่า

คงไม่ใช่เรื่องแปลกมากนัก หากความสามารถในการทนทานต่อแสงแดดของแวมไพร์ที่เพิ่งออกมาใช้ชีวิตบนโลกมนุษย์อาจยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ จึงเป็นสาเหตุเมื่อ ซอนอู ยื่นแขนออกไปสัมผัสแสงแดดจ้าโดยตรง เพื่อน ๆ สมาชิกวงสังเกตเห็นความผิดปกติบนแขนของเขา คือปุ่มสีน้ำตาลที่ปรากฏขึ้นมาพร้อมควันจาง ๆ คล้ายกับกำลังถูกเผาไหม้ไปทีละนิด

 

          หากอธิบายในมุมมองทางการแพทย์ American Academy of Dermatology Association หรือ สถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา อธิบายอาการที่มนุษย์ไม่สามารถถูกแสงแดดเป็นเวลานานได้ ว่ามีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรค Xeroderma Pigmentosum (XP)

Xeroderma Pigmentosum เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีผิวหนังอ่อนไหวต่อรังสี Ultra Violet (UV) เป็นพิเศษ โดยไม่สามารถอยู่กลางแดดได้แม้เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ เนื่องจากร่างกายขาดกลไกในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากรังสีนี้ และจำเป็นต้องมีการบำรุงเพื่อปกป้องผิวหนังที่มากกว่าคนปกติทั่วไป

แต่ท้ายที่สุด ด้วยพลังแห่งมิตรภาพที่คล้ายกับเป็นเกราะป้องกันจากข้อจำกัดในตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา ภาพที่สมาชิกถือร่มออกมาในที่กลางแจ้ง ไม่นานหลังจากนั้นก็ตัดสินใจโยนมันทิ้งไป

จึงทำให้เราเห็นว่าแวมไพร์ทั้งเจ็ดได้ดึงสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในหัวใจของพวกเขาออกมาแล้ว คือ “ความกล้าหาญ” และออกไปท้าทายชีวิตท่ามกลางแสงแดดเพื่อเผชิญกับโลกใบใหม่ที่ยังมีพื้นที่อีกมากรอคอยการเข้าไปสำรวจ

 

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น มิวสิกวิดีโอจึงจบลงด้วย นิกิ น้องเล็กของเหล่าแวมไพร์ สามารถเดินออกมาเก็บลูกรักบี้โดยที่ผิวหนังของแขนสามารถสัมผัสกับแดดได้เช่นมนุษย์ปกติโดยไร้ซึ่งความกลัวอีกต่อไป

 

นักล่ายามรัตติกาลหาได้ไร้หัวใจอีกต่อไป เพราะ “ซูฮา”

ENHYPEN (엔하이픈) ‘DARK BLOOD’ Concept Trailer

 

Love and sacrifice and fate

“If you wish to escape from this twist of fate, Remember these two words … Bite Me

 

          ประโยคที่เด็กชายลึกลับกล่าวไว้ กลายเป็นกุญแจสำคัญของเส้นเรื่องในคัมแบ็ก Dark Blood ร่างของเขานั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สูงเด่น เบื้องล่างคือรถยนต์ที่หากเราเพ่งมองกันดี ๆ จะเห็นหญิงสาวนิรนามกำลังพยายามขอความช่วยเหลืออย่างสุดแรงภายในห้องโดยสาร ก่อนที่ภาพจะตัดไปยัง ฮีซึง สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากภวังค์แห่งความฝัน

ในฝันของเขาปรากฎภาพของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นคนเดียวกันกับเธอ ผู้ที่ขอความช่วยเหลือในไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ นี่จึงอาจไม่ใช่เพียงภาพที่ปรากฎขึ้นมาดื้อ ๆ

หากแต่คงเป็นใครบางคนที่มีสายสัมพันธ์โยงใยกับสมาชิกทั้งเจ็ด และยิ่งตอกย้ำว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาจริง ๆ เมื่อต่อมาร่างถูกบดบังด้วยอ้อมแขนของ ซองฮุน ราวกับว่าไม่ต้องการให้ใครรับรู้ถึงการมีตัวตนอยู่ของเธอ

 

จากเส้นเรื่องนี้ สังเกตได้ว่า ซองฮุน เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ร่วมกับสมาชิกคนอื่น ๆ ซ้ำยังเป็นฝ่ายถูกตามไล่ล่าอีกต่างหาก โดยสาเหตุของทั้งหมดคือ ซูฮา ตัวละครใหม่ที่เข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของจักรวาลนับตั้งแต่นี้ไป

ซองฮุนพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้ซูฮาตกไปอยู่ในกำมือของเพื่อนแวมไพร์ทั้งหก แม้ว่าจะต้องต่อสู้หรือพาเธอหนีไปอีกไกลแค่ไหนก็ตาม แต่ขณะที่ซองฮุนใช้ม้าเป็นพาหนะในการเคลื่อนที่ จองวอน กลับได้แต้มต่อมากกว่าด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมาด้วยความเร็วสูง  ความได้เปรียบเสียเปรียบนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันทางด้านมิติเวลา

ไม่แน่ว่า ซองฮุนอาจเป็นสมาชิกที่เป็นตัวแทนของอดีต ส่วนสมาชิกที่เหลือคือผู้อาศัยอยู่กับปัจจุบันกาล และต้องการหลุดพ้นจากพันธะแห่งโชคชะตา ซึ่งมีเพียงแค่ซูฮาเท่านั้นที่สามารถช่วยพวกเขาได้

 

“มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ที่อำนาจและพลังหมดทั้งหมดจะหวนคืนสู่เธอ”

“กัดฉัน..ซูฮา”

“ลาก่อน…ความรักของฉัน”

 

          หลังจากสิ้นสุดประโยคนี้ของซูฮา เธอได้กัดเข้าไปที่ลำคอของ ซองฮุน ชายผู้เป็นที่รัก ภาพที่เธอดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดย้อนวนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง เป็นไปได้ว่าความกลัวที่อยู่ภายใต้จิตใจของเธอนั้น คือกลัวที่จะ “กัด” ถึงแม้ “การกัด” อาจเป็นสิ่งเดียวที่สามารถปลดปล่อยเหล่าแวมไพร์ให้หลุดพ้นจากพันธะแห่งโชคชะตาอย่างที่เด็กชายปริศนาได้กล่าวไว้

แต่ในอีกมุมหนึ่ง การกัด คือการกระทำที่ต้องแลกมาซึ่งการเสียสละ รวมทั้งในตอนนี้ ซองฮุนเลือกที่จะสละชีวิตของตัวเองเป็นสิ่งสุดท้าย ก่อนที่จะหลุดพ้นต่อพันธะแห่งโชคชะตา เพื่อหวนคืนสู่ซูฮาอีกครั้ง หลังจากที่เขาปล่อยให้ซูฮากัดเพื่อน ๆ ด้วยความไม่ตั้งใจ ราวกับอัศวินผู้บกพร่องในหน้าที่

 

          โดยไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใดในการหวนคืนกลับมาของเขา รู้เพียงว่าภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าซูฮาตอนนี้ คือร่างของคนรักที่ค่อย ๆ สลายไปกับสายลม จบลงตรงเหลือเพียงแค่เธอที่ยังคงนั่งอาลัยด้วยความเสียใจอยู่ผู้เดียว ราวกับว่าชายตรงหน้าไม่เคยมีตัวตนมาก่อน 

 

“ซูฮา” เธอเป็นใครกันแน่นะ ?

ENHYPEN (엔하이픈) ‘ORANGE BLOOD’ Concept Trailer

 

But Still, I want to live

 

          หลังจากที่สมาชิกทุกคนถูกซูฮากัด โชคดีที่จุดจบของพวกเขายังไม่ใช่ดินแดนแห่งความตาย แต่เป็นการเกิดใหม่อีกครั้ง ในฐานะ “มนุษย์” ภาพจึงเริ่มต้นด้วยสมาชิกที่นอนเรียงรายอยู่ริมชายหาด และกอดคอกันร่ำไห้ด้วยความดีใจ เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วภาพตรงหน้ายังคงเป็นกันและกันอยู่

อย่างที่ก่อนหน้านี้ เราได้พูดถึงประเด็นมหากาพย์โอดิสซี บทประพันธ์ของโฮเมอร์ ซึ่งนำมาเป็นชื่อเวอร์ชั่นอัลบั้ม Dimension : Dilemma กันไปแล้ว หากการผจญภัยอันยาวนานของโอดิสซีอุสและเหล่าลูกเรือในผลงานชิ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามเพื่อกลับหวนคืนสู่บ้านของตนเอง ก็เป็นไปได้ว่า ภาพริมฝั่งชายหาดที่ปรากฎ จึงอาจไม่ใช่แค่สถานที่ที่เลือกเพียงเพราะความสวยงามทางงานศิลป์อย่างเดียว

 

          หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของการฝ่าฝันกับสัตว์ประหลาดร้ายกลางทะเลเพื่อพ้นผ่านมรสุมมหาสมุทรแห่งโชคชะตา จนมาถึง “ฝั่ง” หรือ “การกลับคืนสู่ความเป็นมนุษย์”  ได้สำเร็จของพวกเขาทั้งเจ็ดหรือแปดกันนะ?

การลืมตาตื่นในคราแรกของ ซอนอู ทำให้พวกเราเห็นว่า ตัวละคร “ซูฮา” ยังคงปรากฏบนเส้นเรื่องนี้ในฐานะ ‘ผู้ช่วยชีวิต’ เหล่าสมาชิกทั้งเจ็ด อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างซองฮุนและเพื่อน ๆ ก็ดูเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากเส้นเรื่อง Dark Blood ที่เหมือนว่าสองฝ่ายจะตั้งตนเป็นศัตรูกันอย่างชัดเจน

การลืมตาตื่นในครั้งต่อมาของ ซอนอู สมาชิกทุกคนได้เรียนรู้แล้วว่า ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่จีรังยั่งยืน พลังที่มีในตัวตนของพวกเขาก็เช่นกัน เมื่อยอมรับในความเป็นมนุษย์มากขึ้น ภาพการสำรวจโลกกว้างของมนุษย์มือใหม่ฝึกหัดทั้งเจ็ดจึงดำเนินไปอย่างสวยงามและราบรื่น

 

          จนกระทั่งการลืมตาตื่นอีกครั้งของ ซอนอู ที่จะทำให้เรื่องราวต่อจากนี้พลิกผันไปอย่างกับกลับตาลปัตร…เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเพรียกปริศนา ก่อนจะพบว่าเหลือเพียงแค่ตนเองในที่แห่งนี้ เมื่อเดินตามทางมาเรื่อย ๆ เขาเห็น ซูฮา มีท่าทีคล้ายกับกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่บนชั้นสองของบ้านร้างหลังหนึ่ง

ชวนให้ภาพทับซ้อนที่เธอเคยขอความช่วยเหลือภายในห้องรถโดยสารบนเส้นเรื่อง Dark Blood ย้อนกลับมาในความคิดอีกครั้งแต่ในขณะที่ซอนอูกำลังใช้ความพยายามในฟังสิ่งที่ซูฮาต้องการสื่อสารอยู่นั้น

กลับมีร่างของซูฮาอีกคนปรากฎขึ้นและไล่ต้อนเขาด้วยท่าทีที่แปลกออกไปอย่างน่าขนลุก ก่อนจะจบลงที่ถูกเธอจับเป็นตัวประกัน ราวกับว่าเรื่องราวก่อนหน้านี้ ทั้งหมดเป็นเพียงภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกล่อเท่านั้น และเป้าหมายที่เธอต้องการคือ “ซอนอู”

เมื่อย้อนกลับไปยังมิวสิกวิดีโอเพลง Drunk-Dazed ที่เคยแฝงร่องรอยความเชื่อมโยงระหว่างซอนอูและเจ้าหญิงเซเลนไว้ เป็นไปได้ว่า “ซูฮา” อาจคือเจ้าหญิงเซเลนในชาติก่อน ทำให้การปรากฎตัวของซูฮาในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

 

ย้อนไปอีกเมื่อยามที่ซองฮุนร้องขอให้ซูฮากัดคอของเขาในเส้นเรื่องก่อนหน้านี้ โดยกล่าวว่าเพื่อคืนพลังและอำนาจสู่เธอ ยิ่งทำให้ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับอดีตชาติที่เป็นเจ้าหญิงของซูฮามีความสมเหตุสมผลมากขึ้น เมื่อทั้งในฐานะองครักษ์และคนรัก เขาจำเป็นที่จะต้องเสียสละ เพื่อชดใช้ให้แก่ผู้หญิงที่ตนอยู่ใต้อาณัติ รวมถึงเป็นดั่งดวงใจของเขาทั้งดวง

ก่อนเธอจะหายไปท่ามกลางกองเปลวไฟและความโศกเศร้าของสมาชิกที่เหลือ ทิ้งไว้เพียงภาพติดตาที่เธอกัดคอของซอนอูสู่สายตาทั้งหก ฉากนี้สามารถตอกย้ำการผูกพันธะที่มองไม่เห็นระหว่างซอนอูและซูฮาให้กลับมาเชื่อมโยงกันอีกครั้ง ด้วยพลังและอำนาจที่เธอได้กลับคืนมาจากการเสียสละของแวมไพร์องครักษ์ทั้งเจ็ด

หรืออีกมุมหนึ่ง อาจเป็นการสื่ออย่างมีนัยยะ โดยใช้ซอนอูเป็นสื่อกลางในการสื่อสารได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาต่างไม่อาจหลีกหนีโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้วได้ นั่นคือการเวียนว่ายอยู่ในวัฏจักรของแวมไพร์อย่างไม่รู้จบ

 

วัฏจักรของบทบาทผู้ล่า และผู้ถูกล่า กับความปรารถนาอันแรงกล้าที่ไม่สามารถปฏิเสธมันได้

ENHYPEN (엔하이픈) DESIRE Concept Cinema

 

          ในสถานการณ์ที่แวมไพร์เคยถูกประกาศกวาดล้างโดยทางการ ท่ามกลางจุดยืนของประชาชนที่ประกาศกร้าวว่า “มนุษย์และแวมไพร์ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้” พวกเขาทั้งเจ็ดจึงจำเป็นต้องหลบหนี ถือได้ว่าเป็นการพลิกบทบาทระหว่างแวมไพร์และมนุษย์ในฐานะของผู้ล่าและผู้ถูกล่า

ในมุมมองของมนุษย์ “แวมไพร์” เป็นสิ่งมีชีวิตที่จำเป็นต้องถูกควบคุมและกำจัด แต่บัดนี้แวมไพร์ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตต้องห้ามหรือถูกตามล่าอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็น “เผ่าพันธุ์ที่ผู้คนให้ความสนใจ”

เมื่อแสงไฟจากจอโทรทัศน์ส่องสว่างตัดกับความมืดยามค่ำคืน นิกิ และ ฮีซึง กำลังใช้ร่างเดียวกันในการเฝ้ารับชมการถ่ายทอดสดสัมภาษณ์แวมไพร์ตนแรกของโลก น่าแปลกใจที่บรรยากาศของผู้ดำเนินรายการและผู้ชมในห้องส่งไม่ได้ดำเนินไปด้วยความหวาดกลัวอย่างที่ควรจะเป็น  แต่ดำเนินด้วย “ความอยากรู้อยากเห็น”

 

          ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความเชื่อมโยงกันของ เจย์ และ เจค เริ่มมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเส้นเรื่องนี้ เมื่อการสัมภาษณ์ที่ดำเนินไปในฐานะผู้ให้สัมภาษณ์ สมาชิกทั้งสองคนสลับตัวตนราวกับว่าเป็นคนคนเดียวกัน ไม่ว่าจะท่าทาง หรือการแต่งตัวที่คล้ายอย่างกับถอดแบบกันออกมา

การที่ซูฮาในชาติปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับสมาชิกทั้งเจ็ดคน หรือซอนอูมีสายสัมพันธ์กับซูฮาที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น โดยมี “เลือด” ที่เป็นสิ่งที่โยงใยพันธะ  ก็เป็นไปได้ว่าระหว่างเจย์และเจคเอง ต่างก็มีสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงเขาทั้งคู่เป็นพิเศษด้วย “เลือด” อีกเช่นกัน

คำถามที่จะตามมา คงไม่พ้นว่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ จึงมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ว่า พวกเขาทั้งคู่มีสายใยที่มองไม่เห็นเชื่อมโยงกัน “ตั้งแต่จุดเริ่มต้น”

 

          หากเมื่อก่อนสิ่งที่เหล่าแวมไพร์ต้องการ คือหลบซ่อนจากการไล่ล่าของมนุษย์ ในตอนนี้เองก็คงเป็น การหลีกหนีจากสายตาที่เฝ้ามองของหนึ่งตัวละครใหม่ที่ไม่ได้รับเชิญ

ร่างของสัตว์ประหลาดสีดำ คล้ายสุนัขหรือสัตว์ที่มีเขาและฟันแหลมคม โผล่ขึ้นในช่วงพริบตาหนึ่งก่อนที่จะหายไป ทิ้งไว้เพียงความรู้สึกประหลาดใจและตกใจให้แก่เหล่าสมาชิกเมื่อได้พบ ราวกับว่าถูกมันติดตามมาแล้วเป็นเวลานาน

 

          ในมิวสิกวิดีโอ Bad Desire (With or Without you) คัมแบ็กล่าสุดของพวกเขาเอง ก็มีการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดสีดำสนิทเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งพาหนะที่รับส่ง หรือปรากฎตามร่างกายของสมาชิก ราวกับเป็นสัญลักษณ์ที่จองจำและครอบงำพวกเขาทั้งเจ็ดอยู่  ถ้าจะบอกว่าเป็นสัตว์ประหลาดตัวดังกล่าว เป็นตัวเดียวกันกับที่ปรากฏอยู่ใน Concept Cinema ก็ดูมีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย 

ENHYPEN (엔하이픈) ‘Bad Desire (With or Without You)’ Official MV

 

          ลักษณะเฉพาะของสัตว์ประหลาดตัวนี้ชวนให้นึกถึง “Bastet” เสือดำมีปีกคล้ายค้างคาวจากซีรีส์แฟนตาซีเรื่อง Merlin ตอน The Lake of Avalon สัตว์ต้องคำสาปที่ไม่ได้เป็นเพียงสัตว์เลี้ยงหรืออสูรกาย แต่ยังเป็นพาหนะที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตาย

 

 

          ดังนั้น การมีอยู่ของสัตว์ประหลาดชนิดนี้ไม่ได้มีมาเพื่อเติมเต็มภาพให้มีความแฟนตาซีขึ้นอย่างแน่นอน เราจึงเห็นได้จากฉากที่สมาชิกถูกแยกออกจากกันไปยังสองสถานที่ ที่คลับคล้ายคลับคลาว่าฝั่งหนึ่งคือสวรรค์

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งคือนรก ยิ่งทำให้ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับตัวละคร Bastet บนเส้นเรื่องของ ENHYPEN อาจมีความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น ในฐานะพาหนะที่เป็นดั่งสะพานระหว่างโลกสวรรค์และโลกนรกของเหล่าสมาชิก

ในเรื่อง Merlin ก็มีหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ เรียกว่า “Bastet Curse” ผู้ที่ตกอยู่ภายใต้คำสาป จะต้องกลายร่างเป็นปีศาจเสือดำกระหายเลือดเมื่อยามราตรีกาลมาถึง ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับแวมไพร์ที่ยังคงต้องพึ่งพาเลือดเพื่อหล่อหลอมชีวิตพอดิบพอดี ชะตากรรมนี้ต่างเป็นสิ่งที่ทั้งแวมไพร์ทั้งเจ็ดและผู้ที่ต้องคำสาป Bastet Curse ไม่อาจลบล้าง หรือหลีกหนีมันได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เจคถูกสัตว์ประหลาดปริศนาเรียกว่า “ผู้ต้องคำสาป”

 

          ในเส้นเรื่องของ ENHYPEN สัตว์ประหลาดตนนี้ไม่น่าใช่เพียง “พาหนะ” ธรรมดา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการถูกครอบงำโดยโชคชะตาและพลังมืดที่ยากจะควบคุม หรือกำจัดมันได้อย่างถาวร

ช่วงท้ายของ Desire Concept Cinema ภาพจึงจบลงด้วยร่างของ จิมมี่ ผู้ดำเนินรายการที่นอนแน่นิ่งจมกองเลือดกำลังเผยแพร่ออกอากาศไปทั่วทุกมุมโลก ด้วยฝีมือของแขกรับเชิญ ราวกับว่าการมาเยือนของสัตว์ประหลาดตนนี้ จะกระตุ้นให้สัญชาตญาณของพวกเขาได้ประกาศถึงตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาที่ไม่อาจหลีกหนีมันพ้น ตัวตนของ แวมไพร์ ในฐานะ “ผู้ล่า” อีกครั้ง

 

          ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการวิเคราะห์คร่าว ๆ ถึงเส้นเรื่อง 5 ปีที่ผ่านมาในจักรวาลเอนไฮเพน  แม้ว่าในบางเส้นเรื่องจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไปบ้าง

แต่ใจความของคอนเซปต์หลักที่ยึดมั่นจนกลายเป็นจุดที่แข็งแกร่งของวงคือ ตัวตนของ “แวมไพร์” และแน่นอนว่านี่จะยังไม่ใช่จุดจบ เส้นเรื่องต่าง ๆ จะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ พร้อมกับการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของวงในฐานะบอยกรุ๊ประดับโลกที่สามารถเล่าเรื่องผ่านเสียงเพลงและงานศิลป์ได้อย่างทรงพลัง

 

ไม่ว่าจักรวาลแวมไพร์ของหนุ่ม ๆ ENHYPEN จะพาพวกเราไปปิดฉากอวสานที่จุดใด ความรัก ความเสียสละ และโชคชะตาจะถูกตีความออกมาผ่านเรื่องราวที่ต่างออกไปได้อีกมากแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ พวกเขาทั้งเจ็ดจะยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความกล้าหาญที่จะกำหนดเส้นทางของตัวเอง

แล้วคุณล่ะ…มีสิ่งที่ต้องการจะฝืนโชคชะตาเหมือนกันหรือเปล่า ?

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก                                                                                                                                         

American academy of dermatology association

Britannica

Elitedaily

Merlin.fandom

Merlin.fandom

Soompi

Vampire

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube