สรุป #บิวทำร้ายร่างกายผู้หญิง นักแสดงซีรีส์วายถูกแฉคบซ้อน หลอกเอาเงินคนรัก
วงการบันเทิงไทยทำจุดพีคได้พีคคคยิ่งไปกว่าเดิมทุกสัปดาห์ เมื่อนักแสดงหนุ่มที่กำลังมาแรงอย่าง บิว จักรพันธ์ นักแสดงนำ KinnPorsche The Series ถูกอดีตแฟนสาวแฉว่าฝ่ายชายแอบคบซ้อน แถมยังเป็นคนชอบใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายเธอ จนเกิดเป็นแฮชแท็กใหญ่อย่าง #บิวทำร้ายร่างกายผู้หญิง
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรวันนี้มาสรุปให้ฟังกันแล้ว
ทำความรู้จักบิว
ทำความรู้จักตัวละครต้นดราม่าก่อนว่ามีใครบ้าง โดยฝ่ายชายคือ บิว จักรพันธ์ พุทธา เป็นนักแสดงที่ผ่านผลงานหลายเรื่อง ก่อนมาเป็นที่รู้จักในบท พีท ตัวละครหลักของซีรีส์วาย KinnPorsche The Series ที่ออกอากาศเมื่อช่วงเมษายน ปี 2565 และประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนค่ายต้องจัดคอนเสิร์ต world tour พบปะแฟนๆทั่วโลก
ซึ่งความโด่งดังนี้เองจะสานต่อกลายเป็นดราม่าฉาว จากการแฉของ คุณปอย พรรธน์ชญมน นักเขียนนิยาย และเป็นหนึ่งในทีมนักเขียนซีรีส์เรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
จุดเริ่มดราม่า มาจากฟางเส้นสุดท้าย
- สำหรับประเด็นร้อนแรงที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เริ่มมาจากกระแสเล็กๆกระแสหนึ่ง เมื่อต้นสังกัดซีรีส์ดัง ได้ประกาศซีรีส์เรื่องใหม่ของ บิว ที่ชื่อว่า 4 Minutes สร้างเสียงฮือฮาให้กับแฟนๆที่รอติดตามผลงานอยู่
- แต่ก็ดีใจได้มานาน เมื่อ ปอย ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์จุดชนวนดราม่าว่า ซีรีส์ 4 Minutes และพลอตเรื่องนั้น ที่ บิว เล่นนั้น มีความคล้ายคลึงกับนิยายที่ตนเคยคิดขึ้นมา
- ซึ่งทางตนเองก็เคยเล่าพลอตนิยายนี้ให้ฝ่ายชายฟังด้วยเช่นกัน พอเห็นข่าวก็เลยติดต่อฝ่ายชายเพื่อสอบถาม แต่ก็ดันติดต่อไม่ได้
- ยิ่งไปกว่านั้นค่ะ ปอย ได้เปิดเผยความจริง ว่า เธอเองได้แอบคบหากับ คุณบิว มานานแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกัน เธอเองก็ถูกฝ่ายชายทำร้ายร่างกายมาตลอด มีคนในค่ายรับรู้เหตุการณ์และห้ามปรามตลอด รวมถึงได้มีการฟ้องร้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
- ปอยได้เล่าต่อถึงสาเหตุที่เลิกรากันก็เพราะว่า ฝ่ายชายนั้น แอบคบซ้อนกับผู้หญิงอีกคนที่เป็นแฟนเก่าตั้งแต่ปี 2562
- แถมยังนำสิ่งของ รถยนต์ MBW คอนโด ที่ตนเป็นคนซื้อให้ฝ่ายชายไปใช้กับคนอื่น จนเธอขอเป็นฝ่ายยุติความสัมพันธ์ลงตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
- พร้อมทั้งแนบภาพข้อความที่ทั้งเคยคุยกับคุณบิว ทั้งรูปแผลที่ถูกทำร้าย แต่ก็โดนตอบกลับอย่างไร้เยื่อใย หาว่าสำออย แถมพอถามว่ารักเธอไหม ก็ถูกตอบกลับว่าอยากฆ่ามากกว่า
- มีภาพข้อความที่นักแสดงหนุ่ม ทักมาขอยืมเงิน ทั้ง ค่ารถ ค่าบ้าน ขอให้โอนเงินเติมเกม โดยหลักฐานการโอนก็สูงถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว
- ซึ่งเหตุการณ์ที่ออกมาแฉครั้งนี้ ปอยได้อธิบายสาเหตุไว้ก็เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิง การโดนหักหลังที่ทำร้ายจิตใจเธออย่างรุนแรง
- ทำให้หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ทวิตเตอร์ของคุณปอยก็กลายเป็นไวรัล จากแฟนๆชาวไทยและแฟนต่างชาติรุมถามหาความจริงๆในทันที
“อยู่กับผมเจ็บปวดหน่อยนะครับ”
ส่งผลให้ ในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ด้านฝ่ายชายอย่าง บิว ก็ได้ออกมาแก้เกมชี้แจงกับแฟนคลับในงานอีเวนต์ไว้ช่วงหนึ่ง โดยระบุว่า
แต่ก่อนผมกับปอยนั้นเคยสนิทกัน และเคยใช้เวลาที่ดีร่วมกัน แม้ตอนนี้ตัดความสัมพันธ์ไปแล้วก็ตาม
แต่ที่คบกันผมไม่เคยคิดที่จะทำร้ายไม่ว่าจะทางกายและจิตใจ ผมอยากบอกทุกคนว่าไม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ควรมีใครสมควรถูกทำร้าย
ส่วนเรื่องซีรีส์ 4 Minutes ก็ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ เพราะตัวเองก็ไม่ได้ไปบอกใคร
ถ้าผมทำให้ใครเจ็บปวดไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็อยากใช้โอกาสนี้ขอโทษ และถ้าเรื่องนี้ทำให้ทุกคนผิดหวังหรือเสียใจ ก็ขอโทษเช่นกัน
พร้อมกับทิ้งประโยคว่า “ผมพยายามทำตัวเป็นคนที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน เพราะรู้ว่ามีคนที่รักและซัพพอร์ตผม อยู่กับผมเจ็บปวดหน่อยนะครับ” สร้างน้ำตาให้กับแฟนคลับ จนเสียงชาวเน็ตในขณะนั้นแตกออกเป็น 2 ฝ่ายทันที
โดยอีกฝ่ายหนึ่งที่ส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับก็ยังยืนยันที่จะรักในตัวศิลปินที่ชอบต่อไป เชื่อว่าคนเราเคยทำผิดพลาดกันได้
กับอีกฝ่ายที่ออกมาแสดงความไม่พอใจกับพฤติกรรมของนักแสดงคนดังกล่าว และมองว่าสังคมไทยชอบเข้าข้างคนหน้าตาดี ทำผิดอะไรเดี๋ยวก็ได้กลับมามีแสงอีกครั้ง รวมไปถึงแฟนคลับหลายคนที่เคยติดตามบิวก็ประกาศไม่ติดตามอีกต่อไป เนื่องจากรับไม่ได้กับพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้จริงๆ
พร้อมกับจุด #บิวทำร้ายร่างกายผู้หญิง จนขึ้นเทรนด์ความนิยมอันดับต้นๆหลายวันที่ผ่านมา
แฟนคลับช้ำใจ บิวปิดแอคฯหนี
- จนต่อมา ทางบิว ก็ออกมาเคลื่อนไหว โดยเริ่มจู่โจมแฉฝ่ายหญิงบ้างเหมือนกัน โดยแคปแชทที่ปอยส่งมาหา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำหยาบ เช่น เมื่อก่อนข้าเคยรักเอ็งมาก แล้วตอนนี้ก็เกลียดมากๆด้วย สักวันถ้าคนทั้งโลกรู้นิสัยเอ็งจริงๆ ก็ต้องเกลียดเอ็งเหมือนกัน
- บทที่เอ็งได้เล่นเยอะเพราะอะไรจำไม่ได้หรอ ที่เอ็งมีวันนี้ได้ก็เพราะข้าไม่ใช่หรอ ขอให้เอ็งมีแต่ความหายนะไม่มีความสุขทั้งสิ้นในชีวิต ขอให้เอ็งมีแต่ความพังทลายเหมือนที่ทำไว้กับข้า
- ซึ่งจากข้อความที่ บิว แคปลงมาเผยแพร่ในทวิตเตอร์ ที่ตอนแรกจะดูเหมือนช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง ก็ดูจะกลายเป็นเรียกรถทัวร์มาถล่มซะแทน
- เนื่องจากความเห็นส่วนใหญ่มองว่า สาเหตุที่ฝ่ายหญิงเกรี้ยวกราดหนักขนาดนั้นก็เป็นเพราะ ฝ่ายชายต่างหากที่เป็นฝ่ายหนีหน้า ไม่อ่านข้อความ ไม่รับสาย แถมชื่อแชทที่ตัวเองตั้งให้ฝ่ายหญิงก็ตั้งว่า “Block ห้ามอ่าน” จะให้พูดดีด้วยก็คงไม่ใช่
- ไปจนถึงอีกหลายส่วนให้เหตุผลของการโพสต์นี้ ก็อาจเป็นเพราะคุณบิวต้องการเรียกคะแนนสงสารจากแฟนๆ ให้มาปกป้องตัวเอง ตั้งแต่การออกมาร้องไห้กับแฟนคลับกลางงานอีเวนท์ รวมถึงข้อความพวกนี้ แทนที่จะคุยกับคู่กรณี ส่งผลให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
- จนท้ายที่สุด ก็เป็นฝ่ายบิวเอง ต้องระเบิด ปิดแอคเคาท์โซเชียลมีเดีย พร้อมกันนี้ ทางค่ายต้นสังกัดก็ได้ประกาศ พักงาน บิว ทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ทบทวนการกระทำของตัวเอง และจะกลับมาทำทุกอย่างตามปกติอีกครั้งเมื่อเรื่องจบลง
- ทั้งนี้ ทางบริษัทก็ระบุชัดเจนว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและกำลังสอบถามข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่าย อย่างละเอียด จึงขอเวลาในการสืบสวนให้เป็นไปตามกระบวนการความถูกต้องและยุติธรรมต่อไป
- และในวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานี้ ทางค่ายต้นสังกัดอย่าง บีออนคลาวด์ ก็ได้ร่อยจดหมายแถลงแฟนๆอีกครั้ง ว่าจะให้คุณบิวและคุณปอย ออกมาไลฟ์ชี้แจงให้ทราบความจริงโดยทั่วกัน ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม ที่จะถึงนี้ เวลา 14.00 น.
- ขอขอบคุณสำหรับความเข้าใจและความอดทนรอของทุกท่าน รวมถึงขออภัยจากใจจริงสำหรับความไม่สบายใจที่อาจเกิดขึ้นกับแฟนๆในเรื่องราวครั้งนี้
นับเป็นดราม่าที่ 2 แล้วที่มีเรื่องของความรุนแรงมาเกี่ยวข้อง และยังปล่อยให้ต้องรอลุ้นติดตามต่อไปอีก ส่วนข้อเท็จจริงที่จะเกิดขึ้น ก็ต้องดูกันต่อไปว่า ทั้งฝ่ายชายฝ่ายหญิงจะออกมาให้คำชี้แจงแบบไหน พร้อมกับข้อสงสัยของสาธารณะชนว่า ผู้ก่อความรุนแรงที่เป็นคนดังจะจบลงอย่างไร จะจบแบบหนีไปเงียบๆเหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้นหรือเปล่า?
ส่วนใครที่อยากติดตามดราม่าร้อนประเด็นดังแบบไม่ตกเทรนด์แวะมาอ่านต่อได้ที่ iNN Entertainment
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
