เส้นเงิน ฮุยวันกรุ๊ป โยง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฮุนเซน ตัดไฟ-เน็ตจากไทย ใครได้ประโยชน์
การเฝ้าระวังกลุ่มมิจฉาชีพในรูปแบบของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ยังคงหลอกลวงประชาชนได้รับความเสียหาย สูญเสียทรัพย์สินมหาศาล ที่ไม่เพียงแต่ประชาชนชาวไทย จะถูกหลอก ยังมีประชาชนจากหลายประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหล่านี้
ล่าสุด “นิวยอร์กไทม์ส” รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ประกาศขึ้นบัญชีดำ ฮุยวัน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ฮุยวัน เพย์ ที่ “ฮุน โต” หลานชายของสมเด็จฮุนเซน และเป็นลูกพี่ลูกน้องของฮุน มาเนต เป็นคนถือหุ้นใหญ่ โดยระบุว่า เป็นแหล่งฟอกเงินระดับโลกให้กับกลุ่มอาชญากรต่าง ๆ รวมถึงแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ว่าเครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐ (ฟินเซน) ระบุในแถลงการณ์ว่า เงินจำนวนดังกล่าวยังรวมถึงเงิน 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,200 ล้านบาท) จากอาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “ลาซารัส กรุ๊ป” แฮกเกอร์ที่ได้รับความสนับสนุนจากเกาหลีเหนือ
ด้านแถลงการณ์ของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ฮุยวัน กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจากกัมพูชา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินที่ได้จากการหลอกลวงด้านการลงทุน การโจรกรรมทางไซเบอร์ และอาชญากรรมทางดิจิทัลอื่น ๆ โดยเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลเป็นหลักข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับสิ่งที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แถลงว่า พบบริษัท ฮุยวัน กรุ๊ป มีความเคลื่อนไหวในการรับโอนเงินจากเว็บพนันออนไลน์ และเครือข่ายแก๊งคอลฯ ที่เข้ามาหลอกลวงคนไทย มีเส้นทางการเงินส่งต่อเป็นทอด ๆ ไปยังบริษัทดังกล่าว
โดยมีรูปแบบการหลอกลวง คือการแปลงทรัพย์สินที่ได้จากเงินในบัญชีของผู้เสียหาย ไปยังบัญชีม้าแถวต่าง ๆ ก่อนที่จะแปลงเงินเหล่านี้เป็นเงินสกุลดิจิทัล และเมื่อแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัลแล้ว
กลุ่มคนร้ายได้นำเงินสกุลดิจิทัลเหล่านี้ ไปแปลงเป็นเงินสด และทรัพย์สินที่บริษัทดังกล่าว แต่ก็ยังไม่ฟันธงว่า ฮุยวัน กรุ๊ป จะเกี่ยวข้อง 100 % เพราะอาจเป็นไปได้ว่า ฮุยวัน กรุ๊ป ตั้งอยู่ในประเทศกัมพูชา และตั้งอยู่ในพื้นที่ของแก๊งสแกมเมอร์ ตามแนวบริเวณชายแดน และพื้นที่ของกลุ่มคนร้าย จึงอาจใช้บริษัทนี้แลกเงินสกุลดิจิทัลออกมาเป็นเงินสด หรือเงินเข้าสู่บัญชีอื่น ๆ ซึ่งบริษัท ฮุยวัน กรุ๊ป เปิดโดยถูกต้องตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านได้มีการประสานขอข้อมูลไปยังหลายบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ในประเทศ จะให้ความร่วมมือ 100% 50% หรือ 10% ไม่เหมือนกัน แต่บริษัทนี้ให้ความร่วมมือส่งข้อมูลกลับมาให้เป็นบางกรณี ซึ่งบางคดีก็ไม่ได้ส่งข้อมูลกลับมาให้ ส่วนที่มองว่าจะมีความผิดปกติ หรือมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบเครือข่ายธุรกิจของบุคคลใน “ตระกูลฮุน” ผู้นำของประเทศกัมพูชา เรียกได้ว่า ครอบคลุมแทบทุกมิติ ตั้งแต่ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต กาสิโน อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงเกษตรกรรม
โดย “สมเด็จ ฮุน เซน” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มายาวนาน 47 ปี ก่อนจะส่งต่ออำนาจ ให้ “ฮุน มาเนต” ลูกชายขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีฯ แทน ขณะที่ “ฮุน มานา” ลูกสาว ถือหุ้นในบริษัท เม็ตโฟน โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของกัมพูช า ส่วน “ฮุน มานิธ” ลูกชายอีกคน ถือหุ้นในบริษัทไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ แคมโบเดีย อิเลคทริค ไพรเวท ทางด้าน “ฮุน โต” หลายชายของสมเด็จฮุนเซน ถือหุ้นใน บริษัท ฮุยวัน เพย์ สถาบันบริการด้านการชำระเงินดิจิทัล ทั้งสกุลเงินเฟียต และคริปโตเคอร์เรนซี เป็นบริษัทลูกของ ฮุยวัน กรุ๊ป
ซึ่งการที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศยุติการซื้ออินเตอร์เน็ต และไฟฟ้าจากประเทศไทยทั้งหมด แม้ดูเหมือนจะเป็นการปลุกกระแสรักชาติ ให้คนกัมพูชา ไม่ต้องพึ่งพาประเทศไทย แต่หากมองในแง่มุมธุรกิจ ของคนในตระกูลฮุน แล้ว อาจเหมือนเป็นทุนผูกขาดที่ประชาชนต้องหันมาใช้บริการทุกอย่างที่คนในตระกูลนี้ครอบครองอยู่
ทางด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงมุมมอง ในประเด็นที่ สมเด็จฮุนเซน ประกาศ ตัดเน็ต ตัดไฟ จากไทย นอกจากจะเป็นการปลุกกระแสชาตินิยม สร้างผลประโยชน์ทางการเมืองให้กับตนเองแล้ว ยังเป็นการสร้างสภาวะผูกขาด ดึงเม็ดเงินมหาศาลภายในประเทศให้มาซื้อไฟฟ้า และอินเทอร์เน็ต ของเครือข่ายตระกูลฮุนของตนเองอีกด้วย เป็นการฉกฉวยโอกาส เพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าสู่วงศ์วานของตนเอง โดยไม่ได้สนใจความเดือดร้อนของประชาชนชาวกัมพูชาเลย
พร้อมกันนี้ นายวิโรจน์ ให้ข้อเสนอแนะว่า การรับมือกับสองพ่อลูกตระกูลฮุน ต้องอ่านเกมให้ขาด และต้องกำหนดมาตรการทางการเมืองระหว่างประเทศให้เจาะจง พุ่งเป้าไปที่ กลุ่มทุนในเครือข่ายของตระกูลฮุน เป็นสำคัญ นั่นก็คือ “LYP Group” ถ้าจัดการได้ถูกจุด เจาะไปที่กระเป๋าสตางค์ของสองพ่อลูกนี้ได้สำเร็จ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างแรงจูงใจให้รัฐบาลกัมพูชา กลับเข้ามาสู่โต๊ะเจรจา ที่พร้อมหารือร่วมกัน ด้วยเงื่อนไข และข้อเสนอที่สมเหตุสมผลได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews