EOD กู้ระเบิด กลางเมืองรามัน หลังคนร้ายนำกระบะ ชุกบึ้มหนัก 20 กก. จี้ ชิงรถมาจอดหลัง สภ.รามัน
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา นายบัยฮากี หลงลูวา อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทขนส่งสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองยะลา ว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา ขณะขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบอรนซ์เทา แบบตอนเดียว ซึ่งเป็นรถของบริษัทขนส่งสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง หมายเลขทะเบียน บฉ 3897 ยะลา ไปส่งของ ที่ หมู่ที่ 7 ตำบลบุดี อำเภอเมืองยะลา ซึ่งอยู่บริเวณแยกปารามีแต
ขณะกำลังเดินถือของเพื่อเข้าไปส่งภายในบ้าน ได้มีคนร้าย 4-5 คน ได้ทำการผลักตัวผู้เสียหายเข้าไปภายในบ้านที่เกิดเหตุ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดจี้ที่ศีรษะ แล้วนำตัวไปปิดปากและมัดตัวเอาไว้ในบ้าน ก่อนจะนำรถยนต์กระบะ ขับหลบหนีไป โดยภายหลังนายบัยฮากี หลุดจากการถูกมัด จึงได้เดินทางเข้ามาแจ้งความ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา
ซึ่งหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ เร่งค้นหารถยนต์กระบะคันดังกล่าว เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายจะนำรถไปบรรจุระเบิด แล้วนำไปก่อเหตุในพื้นที่ รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดตรวจต่างๆ ในเส้นทางจากแยกปารามีแต ไปยังอำเภอรามัน เนื่องจากทราบว่าเป็นเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี
จนกระทั่งเวลา 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบ รถยนต์กระบะคันดังกล่าวถูกนำมาจอดทิ้งไว้ บริเวณด้านหลัง สถานีตำรวจภูธรรามัน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลกายูบอเกาะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ใกล้กับแฟลตของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ติดกับ ที่ว่าการอำเภอรามัน จึงได้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบเป็นวงกว้าง แล้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เข้าทำการตรวจสอบ
โดยใช้หุ่นยนต์กู้ระเบิดเข้าดำเนินการ โดยพบว่ามีวัตถุต้องสงสัย ที่คาดว่าเป็นระเบิดซุกซ่อนอยู่ภายในรถคันดังกล่าว จึงได้กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากจุดเกิดเหตุ
โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ทำการตรวจสอบด้วยหุ่นยนต์ แล้วพบว่าภายในรถยนต์กระบะคันนี้ มีถังแก๊สปิกนิกสีส้ม และถังแก๊สปิกนิกสีเขียว ที่เชื่อว่าเป็นวัตถุระเบิด วางอยู่ที่พื้นฝั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจยิงทำลายวงจรจุดระเบิด และสามารถทำลายวงจรจุดระเบิดได้
ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่คนร้ายนำมาบรรจุในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักลูกละประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนการจุดชนวนอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ โดยอานุภาพของระเบิด 2 ลูกนี้ หากเกิดระเบิดขึ้นจะสร้างความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สินอย่างแน่นอน
ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ พบพฤติกรรมของคนร้ายที่นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอด เป็นชายสวมเสื้อสีขาวแขนยาวสวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีส้ม และมีคนร้ายอีกคน สวมเสื้อสีขาวแขนยาว สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกกันน็อคสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มารับ แล้วได้หลบหนีไปด้านหลังสถานีตำรวจภูธรรามัน อย่างรวดเร็ว
ซึ่งทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาข่าว เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
โดยคืบหน้าคนร้ายนำรถยนต์กระบะชุกระเบิดหนัก 20 กก. ที่จี้ชิงรถมาจอดหลัง สภ.รามัน จ.ยะลาโดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ทำการตรวจสอบด้วยหุ่นยนต์ แล้วพบว่าภายในรถยนต์กระบะคันนี้มีถังแก๊สปิกนิกสีส้ม และถังแก๊สปิกนิกสีเขียว ที่เชื่อว่าเป็นวัตถุระเบิด วางอยู่ที่พื้นฝั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจยิงทำลายวงจรจุดระเบิด และสามารถทำลายวงจรจุดระเบิดได้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องที่คนร้ายนำมาบรรจุในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักลูกละประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนการจุดชนวนอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ โดยอานุภาพของระเบิด 2 ลูกนี้ หากเกิดระเบิดขึ้นจะสร้างความเสียหายทั้งชีวิต ทรัพย์สินอย่างแน่นอน
ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ พบพฤติกรรมของคนร้ายที่นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเป็นชายสวมเสื้อสีขาวแขนยา วสวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีส้ม และมีคนร้ายอีกคน สวมเสื้อสีขาวแขนยาว สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกกันน็อคสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มารับ แล้วได้หลบหนีไปด้านหลังสถานีตำรวจภูธรรามัน อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาข่าว เร่งติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
