ทหารเหยียบทุ่นระเบิดขาขาดอีก สั่งหยุดข้อตกลงสันติภาพ
“นายกฯอนุทิน” เห็นชอบตามกระทรวงกลาโหม เสนอ ไฟเขียวหยุดปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ ที่มี”ทรัมป์-อันวาร์” เป็นพยาน หลังทหารไทย เหยียบทุ่นระเบิดอีกแล้ว เสียขาเพิ่มอีก 1 นาย ก่อนถึงกำหนดส่งตัว18 เชลยกัมพูชา ขณะแม่ทัพภาค 2 คาดเป็นทุ่นระเบิดใหม่
ก่อนกำหนดวันส่งตัวเชลยศึกคืนกัมพูชา ตามเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพ เพียง 2 วัน คือ ในวันพุธ ที่ 12 พ.ย. 68 กลับมีเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทาง
เป็นเหตุทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.ส.อ. เทิดศักดิ์ สมาพงษ์ อาการข้อเท้าขวาขาด และพลฯ วชิระ พันธนา ที่ อาการแน่นหน้าอกจากแรงอัด โดยได้ส่งตัวเข้าทำการรักษา ที่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 5 เดือน ทำให้ทหารไทยสูญเสียขารวม 7 นาย และบาดเจ็บอีกหลายนาย
และครั้งนี้ ถือเป็นการเหยียบกับระเบิดครั้งแรกในรัฐบาลของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี โดยเกิดขึ้นหลังจาก นายกรัฐมนตรีไทยและฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรี กัมพูชา ลงนามข้อตกลงสันติภาพ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม หรือ2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยาน
ทั้งนี้ ทันทีนายอนุทิน ทราบก็ไม่สบายใจ และได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม พิจารณาประท้วงไปยังคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) โดยจะดำเนินการให้ถึงที่สุด พร้อมกำชับให้กองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลรักษาพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเต็มที่ และขอส่งกำลังใจให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่บริเวณชายแดน โดยขอให้รายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องด้วย
พร้อมให้การสนับสนุน กระทรวงกลาโหมเต็มที่ และเห็นด้วยกับการดำเนินการของกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ ซึ่งสิ่งที่เราดำเนินการมาโดยตลอด จะหยุดจนกว่ามีความชัดเจน และจะต้องทำตามสิ่งที่ประเทศไทยต้องการเท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราคิดว่า ความเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทย ต่อภัยความมั่นคงจะลดลงไปนั้น มันไม่ได้ลด เมื่อไม่ได้ลด เราจะดำเนินการอะไรนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ และเราจะไม่ส่งตัวเชลยศึก
ด้านพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่ลาดตระเวนอยู่เป็นประจำ ซึ่งจากการตรวจสอบแม่ทัพภาคที่ 2 คาดว่า น่าจะเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่
เพราะฉะนั้นเป็นการปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เคารพต่อผลการลงนามข้อตกลงสันติภาพ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา จึงได้ขออนุมัติจากนายกรัฐมนตรี ให้หยุดการปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวไว้ก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้ว
ส่วนหนังสือประท้วงก็ได้ทำไปยังกระทรวงการต่างประเทศ และจะมีการตรวจสอบอีกต่อไป แต่ถ้ามีพบว่า เป็นท่าทีที่รุกล้ำอธิปไตยก็จะต้องมีการปฏิบัติมากกว่านี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
