Home
|
Video

กล้าธรรม “ธรรมนัส” โตวันโตคืน ตัวแปรเลือกตั้งครั้งหน้า

จากคำพูดของ รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ในวันประชุม ครม.ที่ผ่านมา ที่ชี้แจงประเด็นการเมือง และบอกว่า ตนเอง ณ เวลานี้เปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องปกติที่จะถูกโจมตี

 

แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า “รอ.ธรรมนัส” และพรรคกล้าธรรม ได้วางตัวเองไว้ในสถานะใด ในสถานการณ์การเมืองที่ตัวเองเป็นพรรคร่วมรัฐบาลลำดับ 2 และใกล้จะมีการเลือกตั้งใหม่

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2566 ยังไม่มีพรรคกล้าธรรมอยู่ในสาระบบพรรคการเมืองไทย ไม่มีการลงสนามสู้ศึก แต่ปัจจุบันพรรคกล้าธรรม ที่มี “รอ.ธรรมนัส” เป็นหัวเรือใหญ่ กลับมี สส.ที่สังกัด พรรคชัดเจนทำงานอยู่ในสภาเกิน 20 คน

 

และมีเครือข่ายสส.ต่างพรรคที่พร้อมจะย้ายมร่วมหัวจมท้าย สู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง อีกจำนวนมาก จึงไม่แปลก ที่ รอ.ธรรมนัส จะเปรียบตัวเอง เปรียบพรรคกล้าธรรม เป็นต้นไม้ใหญ่

 

พรรคกล้าธรรม และ “รอ.ธรรมนัส” ถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม ด้วยข้อครหาในอดีต โดยเฉพาะวลี “มันคือแป้ง” แต่ในทางกลับกัน “รอ.ธรรมนัส” และพรรคกล้าธรรม กลับมีวิธี ในการทำงาน ที่เข้าถึง และได้ใจชาวบ้าน เพราะ รัฐมนตรีของพรรค หลายคน

 

ทั้งในสมัยร่วมรัฐบาลกับ เพื่อไทย หรือในยุคของนายกฯ “อนุทิน ชาญวีรกุล” ก็มีผลงานที่สามารถจับต้องได้ โดยเฉพาะล่าสุด พยายามเคลียร์ปัญหา ฉาวโฉ่ของวงการกีฬา ก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ในเดือนหน้า

 

ในทางการเมือง พรรคกล้าธรรม แม้จะมีอายุไม่มาก โดยมีจุดเริ่มต้นจากเป็น “พรรคเศรษฐกิจไทย” ก่อตั้งเมื่อปี 2563 มี “ประสงค์ วรารัตนกุล” และ “เมธาวี เนตรไสว” เป็นหัวหน้า และเลขาธิการพรรคคนแรก และกลายเป็นที่พักใจของกลุ่ม สส.ที่มี “รอ.ธรรมนัส” เป็นแกนนำ เมื่อครั้งถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ

 

ในปี 2565 แต่ก่อนจะมีเลือกตั้งใหญ่ ในปี 2566 กลุ่มของ ผู้กองธรรมนัส ก็ย้ายกลับไปอยู่กับ พลังประชารัฐอีกครั้ง และพรรคเศรษฐกิจไทย ก็มี “เชวงศักดิ์ ใจคำ” และ “สัจจวิทย์ ลีลาวณิชย์” เป็นหัวหน้า และเลขาฯ คอยดูแล ย้ายที่ทำการพรรคไปอยู่ที่จังหวัดพะเยา

 

ก่อนจะมีการประชุมใหญ่ เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคกล้าธรรม” และ 6 ส.ค. 2567 ก็มีการเลือกหัวหน้าพรรคนใหม่ ได้ “นฤมล ภิโญสินวัฒน์” เป็นหัวหน้าพรรค และมี สส. จาก 4 พรรคเล็กเข้ามาสังกัด เป็นชุดแรก ตามมาด้วยกลุ่ม สส.ที่มี “รอ.ธรรมนัส” เป็นแกนนำ ออกจากพลังประชารัฐ มาร่วมงานกันอีกครั้ง ทำให้พรรคกล้าธรรม มีขนาดใหญ่โต และรุ่งเรืองขึ้นอย่างที่เป็นในปัจจุบัน

 

เส้นทางของพรรคกล้าธรรม ถือว่าไม่ธรรมดา มี “รอ.ธรรมนัส” เป็นตัวแม่เหล็ก ดึงดูดกลุ่มการเมืองต่างๆ มาเข้าร่วมอุดมการณ์ ลงสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด คว้าชัยได้หลายจังหวัด กลุ่มของ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว”อดีต นายกอบจ.สุราษฏร์ธานี และทีมงานจากปักษ์ใต้ ที่แยกตัวมาจากรวมไทยสร้างชาติ เข้ามาสังกัดกล้าธรรม

 

“นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” และพรรคพวก แยกตัวออกมาจากไทยสร้างไทย โดยที่ “นอ.อนุดิษฐ์” มานั่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ดูภาพใหญ่ของการเตรียมเลือกตั้ง รวมถึงดึง “ชูวิทย์ พิทักษ์พรภัลลภ” ขาใหญ่อดีต สส.อุบลราชธานี หลายสมัย พรรคเพื่อไทยมาร่วมงาน

 

และยังมีข่าวลือต่อเนื่องว่า สส.อีสานอีกหลายจังหวัด จะตามมาสมทบ กระทั่งล่าสุด “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” อดีตหัวหน้า และเลขาฯพรรคประชาธิปัตย์ ลาออก

 

พร้อมนำกลุ่ม สส.ชุดใหญ่อีกเกือบ 20 คน มาร่วมงานกับกล้าธรรมด้วย ทำให้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า “กล้าธรรม” ที่ใครๆ มองเป็น “สีเทา” กลายเป็น “เสือติดปีก” พร้อมที่จะเป็นตัวเลือกให้ประชาชน และจะเป็นตัวแปรสำคัญของสมการการเมือง จัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งด้วย…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube