“ปอนด์ กฤษฎา” เตรียมแถลงดราม่ากับ “ต้อม ยุทธเลิศ” รับเสียความรู้สึก
“ปอนด์ กฤษฎา” ผู้บริหาร Be On Cloud เตรียมแถลงดราม่ากับ “ต้อม ยุทธเลิศ” รับเสียความรู้สึก เปิดใจดราม่าซีรีส์ Shine นักแสดงโอเค
ติดตามกันต่อเนื่องกับประเด็นลิขสิทธิ์ชื่อบุปผาที่ “ต้อม ยุทธเลิศ” เดือดถึงขั้นฟ้องร้องกันขึ้นมา โดย “ปอนด์ กฤษฎา” ได้เปิดใจถึงเรื่องราวยืนยันว่าทำถูกต้องตามกฎหมายและศีลธรรม วันนี้ที่งานประกาศรางวัล”Y Entertain Awards 2025 presented by JisuLife” มีโอกาสได้เจอกันจึงจ่อไมค์สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า
“ที่ผ่านมาตนเงียบไม่ได้พูดอะไรเพราะมั่นใจว่าทำถูกทุกอย่าง ไม่ใชแต่เรื่องกฎหมาย แต่เรื่องเคารพศีลธรรมในการทำงานด้วย วันที่ 26 นี้จะแถลง โดยมี “พิง ลำพระเพลิง” มาด้วย โดยไม่ได้แถลงเพื่อโจมตีใคร ที่ผ่านมาตนเงียบว่าเรื่องจะเป็นยังไง
แต่พอเห็นทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทางเขาอาจจะเข้าใจผิดไปไกลเลยต้องพูดบ้าง เพราะตอนนี้เริ่มมาถึงตัวและผลงานที่ตนทำเต็มที่ คนรอบตัวเป็นห่วงไปหมด
จริง ๆ ตนอยากใช้ชื่อนี้นะ แต่พอเป็นปัญหาขอคิดดูอีกที ภาพยนตร์เรื่องยี้อยากให้ดูที่เนื้อหา คุณภาพ ไม่ต้องสนใจชื่อเรื่อง มั่นใจว่าโครงเรื่องไม่คิดจะเอาของใคร ตนก็ทำงานมานาน
ตอนนี้ชื่อคำว่า “บุปผา” ไม่มีแล้ว ค่าลิขสิทธิ์ที่จ่ายไป 1 ล้าน 2 แสนบาท เป็นตามสัญญาตั้งแต่แรก ๆ ที่ทำ ชื่อเรื่องกับโครงเรื่องไม่ได้ใช้ ตนมีความเคารพชื่นชมผลงานพี่เขา ทุกอย่างมีหลักฐานหมดเลยว่าตนทำด้วยอะไร มันไม่มีปัญหาอะไร ในกองแฮปปี้กันมาก ยังงงว่าไปถึงจุดนั้นได้ยังไง
ไม่มีโครงเรื่อง “บุปผา” ด้วย พูดถึงเรื่องราวสิ่งเหล่านี้ในหอพักมันมีหลายเรื่องมาก หอแต๋วแตก แม้กระทั่งซองแดง เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องที่ไปเอาอะไรของใครมา เพียงแต่โปรเจ็กต์นี้มันขึ้นมาก่อนที่ตนไปรับมา ซึ่งมันเกือบพับไปแล้ว


ตนว่าต้องให้เขาไปคุยกับ “พิง” เพราะตนไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว แต่วันแรกที่เขาโพสต์ตนได้จะโทรไปคุย แต่ผ่านอีกคนนึง เขาบอกว่ายังไม่สะดวก พอมันเกิดเหตุแบบนี้ถ้าอารมณ์เยอะ ๆ ก็ยังไม่อยากคุยตอนนั้น ตนปกติมาก
แต่เสียความรู้สึกนิดหน่อย วงการน่าจะน่ารักกว่านี้ เป็นงานสร้างสรรค์ บรรยากาศในกองแฮปปี้มาก พอมาเจอแบบนี้แต่ละคำมันรุนแรง สิ่งที่ติดคือความเอาผลงานตนที่เป็นซีรีส์เกย์มาเหยียด เรียกตนว่าอะไรไม่ได้ซีเรียสเลย แต่ปีนี้ 2568 แล้ว สู้กันมาไกลมากกับเรื่องเพศที่ไม่ควรเหยียดกัน
ทาง Be On Cloud ได้ไปร่วมกับ “พิง” ตอนที่ได้ลิขสิทธิ์มาแล้ว แต่เขามีกลุ่มเด่าที่จะได้ จุดประสงค์ “พิง” คืออยากได้ “เจษ” ไปเล่น แต่ถ้าเอานักแสดงตนไปเล่นก็อยากมั่นใจเลยร่วมลงทุนด้วยมากขึ้นเรื่อย ๆ ปรับบทไป พอลงทุนใหญ่ก็อยากคาดหวังผลงานที่ดีที่สุด
ตัวสัญญาไม่ได้บอกว่าต้องไปแจ้ง เพราะตนทำตามตัวเอกสาร เพราะตนเข้ามาเสียบ ทำตามสัญญาทุกอย่าง เรื่องที่เกิดในกองเป็นเรื่องภายในภาพยนตร์ ไม่ต้องอธิบายให้ใครฟังในตอนนั้น
ตอนนั้น “พิง” อยู่ที่บ้านในช่วงนึง งบประมาณมันพาไปไกลมาก มีจังงหวะที่ Be On Cloud มาทำ “พิง” ก็กังวลเพราะดูโปรเจกต์มาตั้งแต่แรก ต้องไปดูหลังบ้านว่างบไปไกลขนาดนั้นตั้งจัดการยังไง บวกกับสภาพจิตใจ ต้องเข้าใจว่าคนทำงานมีเรื่องสภาพจิตใจกันทั้งนั้น แต่สุดท้าย “พิง” กำกับอยู่จนวันแรกยันปิดกล้อง นักแสดงที่ถูกพาดพิง ทุกคนอยู่ในกองอย่างแฮปปี้ ทุกวันนี้ตนยังงงว่าต้นสายปลายเหตุคืออะไร
ที่ “พิง” บอกว่าโดนถอดออกจากโปรเจกต์แล้วตนไม่ได้ทำแน่นอน มั้นใจว่าถ้าเขารัก “พิง” มากขนาดนั้น ตนก็รักไม่แพ้กัน ตนซัปพอร์ตสุดกำลัง ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เขาต้องไปเคลียร์กัน ต้องมาบอกตนด้วยซ้ำว่าเรื่องเป็นยังไง เพราะ “พิง” บอกตนว่าไม่ได้พูดแบบนั้น
“พิง” ค่อนข้างดำเนินการชัดเจนในเรื่องกฎหมาย วันที่ 26 นี้จะเห็นรายละเอียดชัดเจน ไม่ได้แถลงด้วยอารมณ์ พูดความเป็นจริงทั้งหมด ฝากทุกคนตัดสิน
กระทรวงวัฒนธรรมไม่ได้ตัดสินจากชื่อเรื่อง ตัดสินจากคอนเสป ชื่อจะเป็นยังไงไม่ใช่ปัญหา ตนเคยทำงานกับกระทรวงวัฒนธรรมมาแล้ว สุดท้ายแล้วเรื่อง “บุปผา” ต้องว่ากันว่าผิดข้อไหนเพราะมีสัญญาถูกต้อง ทำตามทุกอย่าง ถ้าเขาจะหาข้อผิดเขาก็หาเรื่อย ๆ ไม่แน่ใจว่าข้อไหนกันแน่ที่ผิด อันนี้เขาคิดว่าตนละเมิดจริง ๆ หรือมีอคติบางอย่สง
ไม่ได้กังวลเรื่องเงิน 100 ล้านบาท แต่เสียความรู้สึก ตนก็เหมือนหน้าใหม่ในวงการ แพชชั่นเต็ม รู้สึกว่าต่อให้ไม่ต้อนรับก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้สร้างตัวเล็ก ๆ คือฆ่ากันได้เลย ใจร้ายไป ฟ้องมาเท่าไหร่เป็นคำพูด ในทางกฎหมายมันใช้เวลา
ในวันนี้กำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ ไม่ใช่เรื่องของเงิน เป็นความอคติไม่เข้าใจแล้วโมโหไปก่อนหรือเปล่า ไมาอยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกันใครอีก
ตอนนี้รู้สึกว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตน ไม่ได้รู้สึกว่าทำให้ใครเจ็บตัว ตนทำสิ่งสร้างสรรค์ ต้องไปถามเขามากกว่า ตนพร้อมตอบอยู่แล้ว ไม่งั้นวันนี้คงไม่มา แต่ไม่อยากคุยเรื่องแบบนี้เวลาทำงาน อยากคุยเรื่องดี ๆ หนังเรื่องนี้ฉายแน่นอน


ส่วนดราม่า Shine ในการผลิตเรื่องนี้บอกแล้วว่าเป็นซีรีส์เกย์เล่าเรื่องราวของมนุษย์ไม่ได้มองว่าใครหลักใครรอง เรื่องราวของ “มายด์ – อาโป” เป็นนักแสดงหลัก แฟน ๆ อาจจะคาดหวังโมเมนต์ที่อยู่ด้วยกันมาก แต่แบคกราวน์ตัวละครไปเกี่ยวเนื่องกับคนอื่น เป็นตัวเดินเรื่อง ขึ้นอยู่กับรสนิยม บางคนชอบความจัดจ้านของอีกคู่ บางคนมองลึกซึ้ง ตนก็มองแบบนั้นเพราะบางทีมันไม่ต้องเล่าออกมาให้คนตีความ สุดท้ายเขาได้อยู่ด้วยกันในวันที่สมรสเท่าเทียมมีแล้ว มันทัชมาก ไม่ได้ปประกาศเพราะไม่อยากให้คนเดาได้ใครเป็นบทไหน ไม่ได้ทำร้ายจิตใจใคร อยากให้เข้าใจตัวละคร ก็เข้าใจได้
ทางด้านนักแสดงโอเคมาก เขเาใจ ทำมาตั้งแต่วันแรกทุกคนเห็นบท ความลึกซึ้ง ว่าทำอะไร สื่อสารเรื่องชีวิตผู้ชายที่ถูกคาดหวัง เรื่องชายรักชาย ที่ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดอันนี้ที่สำคัญ
ฝากวันที่ 26 นี้ด้วย ไม่อยากให้เกิดการทะเลาะกัน ถกด้วยความจริง เอาเอกสารมาละเอียดให้เห็นชัดจะเป็นการพูดแค่ครั้งเดียว ไม่อยากพูดดราม่าซ้ำ ๆ มันบั่นทอน”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





