การเมืองร้อนองศาเดือดทุกมิติ ฝ่ายขุนทหาร 2 ลุงทำเนียบปาดหน้าแย่งซีนกันอุตลุด ส่วน ฝั่งประชาธิปไตย ก็ชุลมุนวุ่นวายไม่แพ้กัน
ทั้งในค่ายเพื่อไทย กับศึกแกนนำมวลชนผันแปร และ ค่ายก้าวไกล ที่แม้ว่าช่วงหลังๆกระแสเริ่มตีตื้นดีขึ้นหลังศึกอภิปรายล่าสุด แต่กลับปรากฏร่องรอยความขัดแย้งระหว่าง หนุ่มทิมพิธา กับหนุ่มป๊อก นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้นำจิตวิญญาณของเหล่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ ออกมาเป็นระยะๆ
ยิ่งวันก่อน ปิยบุตร โพสต์เรื่อง “แลนด์สไลด์ ที่พรรคก้าวไกล แก้ไม่ออก” ที่วิพากษ์ความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลในปัจจุบันที่ไม่มีแนวโน้มเติบโตมากไปกว่านี้ ตราบใดที่ไม่คิดเปลี่ยนแปลง สร้าง “พลังใหม่” ของตัวเอง ก็จะเป็นเพียงพรรครอง ได้รับอานิสงส์เพียงแค่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อราว 30 ที่นั่งเท่านั้น และรอความเมตตาจากพรรคเพื่อไทย ดึงมาร่วมรัฐบาลแลกกับเก้าอี้รัฐมนตรีสองสามตำแหน่ง เท่านั้น
พร้อมตบท้ายว่า ปัญหาจึงมีอยู่ว่า…ผู้นำพรรคก้าวไกลมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะชนะในเขตเลือกตั้ง ได้หรือไม่ มีความสามารถเพียงพอที่จะทำให้คนเชื่อโดยพร้อมเพรียงกันว่า ต้องมีพรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนของพลังใหม่ในการเปลี่ยนประเทศตั้งแต่รอบนี้ ได้หรือไม่? เหลือเวลาอีกสามเดือน !!! ซึ่งโพสต์นี้ มีคนกดถูกใจไปเป็นหลักพันคน มีคนแสดงความเห็นกว่า 200 ราย และแชร์โพสต์ไป100กว่าราย
และก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 นายคริส โปตระนันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ค่ายก้าวไกล ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ตัดสินใจทิ้ง ‘ก้าวไกล’ เสียแล้ว โพสต์ พบความจริงที่ว่าความเป็นประชาธิปไตยของพรรคยังห่างจากที่พรรคโฆษณาไว้มาก นโยบายหล่นลงมาจากฝากฟ้า
หล่นลงมาจากห้องแอร์ ผมจึงไม่สามารถจะเป็นเซลล์ขายนโยบายของพรรคได้จริงๆ เพราะเราเป็นนักการเมือง เรามีความเชื่อของเรา เราไม่ใช่นักขายที่ไม่ว่าของจะดีหรือไม่ดี ก็ต้องโกหกประชาชนส่วนด้านผู้นำพรรคก้าวไกล
ที่ปิยบุตรกล่าวถึงก็คือ พิธา ที่เคยเป็นเงาของเสี่ยเอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ตอนนี้ค่อนข้างโลว์โพรไฟล์ จึงทำให้ชื่อเสียงของพิธาโดดเด่นขึ้นมาและสามารถครองใจ กลุ่มเยาวชนคนหนุ่มสาวได้พอสมควร ซึ่งหลายครั้ง
พิธา ขับเน้นความเป็นผู้นำผ่านการอภิปรายในสภาแบบครบเครื่องมีทั้งบุ๋นและบู๊ วาจาคมคาย สอดแทรกคำคม เหน็บเสียดแทง เรียกเสียงฮือฮาได้ทั้งในและนอกสภาได้ไม่น้อย อย่างล่าสุดก็ประกาศปิดสวิทซ์ 3 ปอ.คืนอำนาจประชาชน
แต่ที่ผ่านมา พวกสุดโต่ง ไม่ค่อยพอใจกับท่าทีของพิธามากนัก เพราะเขาจะดุดันกับขั้วทหาร แต่ในฝั่งประชาธิปไตยประนีประนอมสูง ยิ่งเฉพาะค่ายเพื่อไทย เขาเคยกล่าวว่า เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด รวมถึงในอนาคตอาจจะมีบางอย่างที่เห็นไม่ตรงกันบ้างในเรื่องของการทำงาน แต่คิดว่าน่าจะหาจุดร่วมกันได้ และหวังว่าในอนาคต ถ้าเราเป็นรัฐบาลร่วมกันก็สามารถแบ่งงานกันทำได้ และทำงานไปในทิศทางเดียวกัน”
สำหรับในเรื่องความขัดแย้งของ”ปิยบุตร และ พิธา” นั้น มีผู้นำจิตวิญญาณหัวหงอกของกลุ่มสุดซอยรายหนึ่งเคยเขียนวิเคราะห์ไว้สั้นๆว่า “ก้าวไกลมีปัญหาเรื่องแกนนำกับอดีตแกนนำเห็นไม่ตรงกันในเรื่องเอากฎหมายมาตราสำคัญมาหาเสียง แต่เรื่องแก้นั้น ได้ยื่นเรื่องไปที่ประธานสภานานแล้ว
ติดอยู่ที่ประธานสภา ส่วนเพื่อไทยนั้น เจ้าของพรรคตัวจริงจะไม่แตะเรื่องร้อนนี้เลย โดยสรุป เพื่อไทย ตาม ก้าวไกล อยู่ห่างๆ และ ก้าวไกล ตามข้อเรียกร้องมวลชนอยู่ห่างๆ
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าในอนาคตของค่ายก้าวไกลจะเดินไปอย่างไร แค่ก้าวใกล้ๆแค่เพื่อไทย หรือก้าวไกลไปจนสุดขอบทางฝันของตัวเอง!
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
