fbpx
Home
|
อาชญากรรม

พ้นคุก!สรยุทธได้พักโทษออกเรือนจำแล้ว-ติดกำไลEM

Featured Image
พักโทษปล่อยตัว ” สรยุทธ สุทัศนะจินดา”อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดัง จากเรือนจำ แต่ยังให้ติดกำไล EM – คนดังแห่รับ

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ นำตัวนาย สรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าว ขึ้นรถกรมราชทัณฑ์ ไปใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ที่สำนักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร เขต 7 หลักสี่ หลังจากที่ได้รับการพิจารณาพักโทษโดยเหตุพิเศษ “สรยุทธ์”เข้าเกณฑ์ได้พักโทษปล่อยตัว14มี.ค.

โดยวันนี้ ญาติของนายสรยุทธ นำดอกไม้ธูปเทียน ทำพิธีกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครระหว่างรอการปล่อยตัวนายสรยุทธ

 

 

เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

 

ทั้งนี้ นายสรยุทธ จะเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ โดยใส่กำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) จนกว่าจะครบกำหนดโทษเป็นระยะเวลา 2 ปี 4 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2564 ถึง 26 กรกฎาคม 2566 และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษ

สำหรับ นายสรยุทธ์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ โดยการลดโทษมาแล้ว 2 ครั้ง เหลือโทษจำคุก 2 ปี 4 เดือน จากโทษเดิม 6 ปี 24 เดือนทำให้เข้าข่ายในการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาพักโทษ ซึ่งได้พิจารณาผู้ต้องขังเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษเหตุพิเศษทั้งนี้ นายสรยุทธ์ ประพฤติตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ช่วยงานของกรมราชทัณฑ์หลายอย่าง

อย่างไรก็ตาม พบว่า บรรยากาศที่กรมคุมประพฤติ มีคนดังเดินทางมารอรับเป็นจำนวนมาก เช่น ไบร์ท พิชญทัฬห์  โต๋  ศักดิ์สิทธิ์ ,นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ , นายตัน ภาสกรนที และ นางอริสรา กำธรเจริญ หรือหมวย

ซึ่งทุกคน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกดีใจที่นายสรยุทธ์ ได้ออกจากเรือนจำแล้ว

ชูวิทย์ สรยุทธ

 

“สรยุทธ์”เปิดใจหลังพ้นโทษน้ำตาคลอ บอกสิ่งแรกที่จะทำหลังจากนี้ คือกลับไปไหว้รูปแม่-อุบตอบคัมแบ็กวงการสื่อ แต่หากกลับมายันอยู่ช่อง3

นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าว เปิดเผยภายหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และ ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว(EM)ที่กรมคุมประพฤติ ว่าขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ ตนดีใจที่ได้รับอิสรภาพแม้จะยังไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์เพราะยังต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ แต่อย่างน้อยก็ยังได้ออกจากเรือนจำ

ทั้งนี้ช่วงระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระยะเวลา 1 ปีกว่า การกินอยู่เป็นนอนไม่สบายมากนักแต่ก็ค่อย ๆ ปรับตัวได้ มีความทุกข์บ้างแต่คดีก็ได้จบสิ้นเสียทีกระทั่งช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งมีกระแสข่าวในเรือนจำบุรีรัมย์มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 จึงทำให้เกิดจลาจล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยธ. จึงมีนโยบายจัดรายการเรื่องเล่าชาวเรือนจำเพื่อให้ข้อมูลแกผู้ต้องขัง โดยหลังจากที่ตนเองมีโอกาสได้จัดรายการซึ่งเป็นอาชีพที่ตนรัก ก็ทำให้วันเวลาในเรือนจำผ่านไปไวขึ้น และมีโอกาสกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งในชีวิตใหม่อีกครั้ง

สรยุทธ์

 

นายสรยุทธ ระบุพร้อมน้ำตาคลอ ว่า หลังจากนี้จะเดินทางไปไหว้รูปมารดา ส่วนการกลับมาจัดรายการข่าวนั้นจะขอใช้เวลาคิดสักระยะ เพราะตนว่างเว้นจากการทำข่าวมานานกว่า 5 ปี ตั้งแต่มีคดีความ ซึ่งปัจจุบันมีรายการข่าวมากมายต้องขอเวลาปรับตัวแต่ยืนยันว่า แต่หากจะกลับมาทำหน้าที่พิธีกรข่าว จะยังคงอยู่ที่ช่อง 3 เหมือนเดิม

ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่า การปล่อยตัวของ นาย สรยุทธ ครั้งนี้ ไม่ใช่การปล่อยตัวนักโทษวีไอพี(VIP) แต่เป็นการอำนวยความสะดวกเพราะเห็นว่า นายสรยุทธ เป็นที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนรวมถึงเป็นที่รู้จักของคนในสังคม จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบในทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว

 

ขณะที่ นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ ระบุว่า หลังจากติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) แล้วจะไม่สามารถกลับไปใกล้กับบริเวณเรือนจำได้เพราะเป็นข้อห้าม เนื่องจากเกรงว่าจะมีการติดต่อกับนักโทษภายใน, ห้ามขึ้นเครื่องบิน หรือเดินทางออกนอกประเทศ แต่หากจะเดินทาง ต้องขออนุญาตก่อน 3 วัน, ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกสถานที่ที่ได้รับอนุญาต คือพื้นที่ กทม.และปริมณฑล รวมถึงห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง เช่น เป็นพิธีกรให้กับพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ยกเว้นแต่การจัดรายการข่าวทั่วไป ซึ่งจะต้องนำเสนอข้อเท็จจริงของข่าวภายใต้จรรยาบรรณของสื่อมวลชน

สำหรับ นายสรยุทธ์ ได้รับการพิจารณาพักโทษโดยเหตุพิเศษ และได้รับการปล่อยตัวในวันนี้ซึ่งนายสรยุทธ จะต้องติดกำไลEM เป็นระยะเวลา 14 เดือนคือตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.64 – 20 พ.ค. 65 และต้องรายงานตัวกับกรมคุมประพฤติตามกำหนดจนกว่าจะพ้นโทษคือในวันที่ 26 ก.ค.66 รวม 2 ปี 4 เดือน

สรยุทธ กำไล EM

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube