นายกฯ แพทองธาร ไม่ลาออก ไม่ยุบสภา …รออยู่กี่คดี
เป็นที่แน่นอนแล้วว่า นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เดินหน้าต่อ ไม่ลาออก ไม่ยุบสภา ไม่สนม็อบจะลงถนนขับไล่ เตรียมปรับ ครม.โดยที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมอยู่กันเกือบครบ แม้บางพรรคยื่นเงื่อนไข ข้อเรียกร้อง และเจรจาต่อรอง แต่ท่าทีหลักที่สื่อออกมาคือต้องการอยู่ต่อ หลัง”ภูมิใจไทย” ที่โดนทวงคืนมหาดไทย ชิงจังหวะถอนตัว หลังคลิปเสียงสนทนา “หลานอิ๊งค์ กับ อังเคิลฮุน” สมเด็นฮุนเซน แห่งกัมพูชา ถูกเผยแพร่ออกมา ด้วยข้ออ้างสุดเทห์ ความมั่นคงของชาติต้องมาก่อน กวาดคะแนนนิยมไปเป็นกอบเป็นกำ
เสถียรภาพรัฐบาล”แพทองธาร” หลังจากนี้ ปริ่มน้ำพอสมควร เมื่อ 69 เสียงของภูมิใจไทยหายไปเป็นฝ่ายค้าน และเมื่อสภาเปิดสมัยประชุม ก็จะเป็นบทพิสูจน์ ความเหนียวแน่นหนึบของรัฐบาล
ว่า จะคุมเสียงได้มากน้อยเพียงใด สภามีโอกาสล่มได้ตลอดเวลา หากมีการเล่นเกมเสนอนับองค์ประชุม รวมถึงความเข้มข้นในการพิจารณา ร่างพรบ.งบประมาณ ปี 69 วาระ 2 และ 3 รวมถึง
ร่างพรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลจะผลักดัน หากกฏหมายถูกตีตก นายกฯ และรัฐบาลก็ต้องแสดงความรับผิดชอบ
เมื่อนายกฯแพทองธาร ตัดสินใจไปต่อ ไม่ยอมลาออก ไม่ยอมยุบสภา ตามข้อเรียกร้องของหลายฝ่าย ที่ทำให้ประเทศไทยเสียเกียรติภูมิ เสียศักดิ์ศรี ในสายตาชาวโลก และทำแค่แถลงขออภัย
ต่อกรณีคลิปเสียงเจรจา”อังเคิลฮุนเซน” ไม่ได้ “ขอโทษ” ที่บ่งบอกถึงการสำนึกผิดที่ได้ทำลงไปแต่อย่างใด ก็ย่อมต้องเผชิญกับการถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ในหลายข้อหา หลายคดี จากศาล และองค์กรอิสระ เริ่มจาก “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ยื่นต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ตรวจสอบนายกฯอิ๊งค์ ว่า มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ อันเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญมาตรา 170(4) หรือไม่
คดีต่อมา อดีต สว.สมชาย แสวงการ,นิติธร ล้ำเหลือ และ “คมสัน โพธิ์คง” แจ้งความ ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แจ้งจับ นายกฯ แพทองธาร ในข้อหา กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาญาจักร มาตรา 119 ถึง 128 ส่วนคดีที่ 3 “ศรีสุวรรณ จรรยา” ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวน และมีความเห็นกล่าวหา “แพทองธาร” จงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมาย หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ อันเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 มาตรา 120 ประกอบมาตรา 128 อันเป็นความผิด ต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักรโดยชัดแจ้ง
และคดีที่ 4 “มงคล สุรัจสัจจะ” ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้พิจารณาถอดถอน “แพทองธาร” ออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี รวมถึงวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งของ”แพทองธาร” สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ ตลอดจน ยื่น ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง และอาจมีลักษณะเป็นการจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกหลายจังหวัดแจ้งความดำเนินคดีกับ”แพทองธาร” ผิดมาตรา 119 ดังนั้น แม้ “แพทองธาร” จะได้ไปต่อในทางการเมือง แต่ก็อาจสะดุดหัวทิ่ม ตกจากเก้าอี้ เพราะคดีความ ที่ตามมาเป็นหางว่าว โดยมีคลิปเสียงสนทนากับ “อังเคิลฮุน”เป็นต้นเหตุรวมถึง ยังมี 2 คดีก่อนหน้านี้ “ตั๋ว PN” กรณีการซื้อหุ้นของนายกรัฐมนตรี และการใช้งบผิดประเภท 3.5 หมื่นล้านบาท มาแจกในโครงการเงินดิจิทัล ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ซึ่ง ป.ป.ช.รับเรื่องข้อกล่าวหาไว้แล้ว …
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
