fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

3 คดีเขย่ายุติธรรมไทย! “ทักษิณ-บอส-เปรมชัย”

ความเคลื่อนไหวล่าสุด คดีบอส ทายาทเศรษฐีชื่อดัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตปี 2555 อัยการมีมติสั่งฟ้องอาญา 8 คน เซ่นช่วยเหลือคดี ตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในความผิด มาตรา 157 และฐานเป็นผู้สนับ สนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เปลี่ยนแปลงสำนวนลดความเร็วรถ ซึ่ง 8 คนดังกล่าว ล้วนแล้วแต่เป็นระดับ บิ๊ก ทั้งสิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยคดีนี้ในปี 2563  อัยการมีคำสั่ง ไม่ฟ้อง บอส โดยอ้างว่า คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง ซึ่งจวบจนวันนี้ผ่านมามากกว่า 10 ปีแล้ว  แต่บอส ยังคงลอยนวลต่างประเทศ ซึ่งคดีบอสนั้นสังคมยังจับตาเพราะเป็นอีก 1 คดีดังที่สะท้อนให้เห็นกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง ที่ใครๆต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าคุกมีเอาไว้ขังคนจนเท่านั้น  เพราะเมื่อคนรวยหรือคนมีชื่อเสียง ทำความผิดขึ้นมา ส่วนใหญ่ก็มักจะรอดคุกเกือบทุกคน เฉกเช่นเดียวกับคดีของทักษิณ ชินวัตร
โดยทักษิณโดนโทษ 3 คดี แต่ด้วยอาการป่วยหลายโรคของเขา จึงทำให้ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้รับการพักโทษและกลับบ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อ 18 ก.พ.ซึ่งสังคมก็ยังจับตาทักษิณและพรรคเพื่อไทย อย่างต่อเนื่อง เพราะนายใหญ่กลับมาแล้ว แถมยังมีคนดังการเมืองหลายคนแห่ขอเข้าพบ อีกทั้งนักวิชาการยังเคยบอกด้วยว่ากฎหมาย ทำอะไรทักษิณ ไม่ได้
ขณะที่กระบวนการช่วยเหลือทักษิณนั้นยังคงถูกตรวจสอบ นอกจากนี้ทักษิณยังยังโดนคดีม.112 อีกด้วย ทักษิณได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม โดยสำนวนคดีอยู่ระหว่างรออัยการสูงสุดชี้ขาด 10 เม.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งประเด็นนี้นักวิเคราะห์เหตุการมองว่าอาจทำ ให้พรรคเพื่อไทยจับมือพรรคก้าวไกลจริงหรือไม่
ทั้งนี้หากย้อนไปปี 2561ในสังคม ยังเคยมีคดีดังอีก1คดีที่คนรวยทำความผิด ถูกกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถือว่าเป็นคดีสะเทือนใจสำหรับคนรักสัตว์เลยทีเดียว อย่างคดีเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวก ที่เข้าไปล่าเสือดำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก ในพื้นที่จ.กาญจนบุรี ซึ่งเขานั้นยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 14 เดือนไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้เงิน 2 ล้านบาท ขณะที่ 17 ต.ค.2566 ที่ผ่านมาเขาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำและลดโทษ ไม่ต้องใส่กำไล EM เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพ
พร้อมกันนั้นหากเปรียบเทียบ 3 คดีดังกล่าวแล้วก็คงยากที่จะปฏิเสธว่ากระบวนการยุติธรรมกฎหมายไทยนั้นมีช่องโหว่จริง เพราะการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่สะท้อนให้เห็นภาพอย่างชัดเจน โดยเฉพาะกรณีของทักษิณ นอกจากนี้ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้ม มือปราบหูดำ ได้วิเคราะห์คดีบอสผ่านรายการเข้มข้นเย็นช่องPPTV ด้วย ว่าแม้คุณไม่ติดคุกแต่คุณจะถูกสังคมตราหน้าและคุณจะอยู่ไม่ได้ ต่างประเทศเขารู้ว่าบอส อยู่ในกลุ่มนักธุรกิจใหญ่ ดังนั้นเขาต้องวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเติบโตไปเป็นนักธุริกิจที่มีพฤติกรรมแบบนี้
ซึ่งผมมองว่าเสมือนเขาจะติดคุกทางสังคม ส่วนกระบวนการยุติธรรมพูดตรงๆติดลบอยู่แล้ว คนที่คิดแผนลดความเร็วรถถือว่า เลวร้ายมาก แถมคนช่วยยังเป็นตำรวจอีก ซึ่งคดีนี้บ่งบอกกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวตั้งแต่ต้น ขณะที่วัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ระบุในรายการเดียวกันว่าตอนนี้บอสเหลือข้อหาสุดท้ายคือ มาตรา 291 ซึ่งจะจับบอสได้หรือไม่นั้น ถือเป็นการพิสูจน์การทำงานของตำรวจที่จะต้องประสานอินเตอร์โพล และวิธีการทำเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้หากทราบที่อยู่บอสแล้วต้องส่งมาทางอัยการ และอัยการต้องทำเรื่องไปยังประเทศ นั้นๆเพื่อนำตัวบอสกลับไทย
อย่างไรก็ตามคงต้องมาจับตาว่ากระบวนการยุติธรรมจะสามารถบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมาจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นทายาทอภิมหาเศรษฐีรายนี้ได้หรือไม่

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube