fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

พรีเมียร์ลีกลุ้นแชมป์เดือด!

 

 

เปิดโปรแกรมชี้ชะตา “หงส์แดง-เรือใบ-ปืนใหญ่” ใครจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

 

 

เรียกว่ากำลังดุเดือดเข้มข้นเลยทีเดียว สำหรับการแย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023-2024 ยิ่งใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว การลุ้นแชมป์ก็ยิ่งสนุก เร้าใจ สะใจกองเชียร์ประเภทฮาร์ทคอร์จริงๆ ซึ่ง 3 ทีมหัวตารางอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ อาร์เซนอล ยังไม่มีใครพลาด หลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง 3 ทีมต่างโชว์ฟอร์มเยี่ยม เริ่มจาก แมนฯ ซิตี ไล่ต้อน เอฟเวอร์ตัน 2-0 พร้อมแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว แต่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา พลพรรค “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ก็ได้เฮบ้าง หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ สอย เบิร์นลีย์ ไปแบบสบายๆ 3-1ทวงบัลลังก์จ่าฝูงกลับคืนมาได้สำเร็จ

 

 

ขณะในคืนวันอาทิตย์ อาร์เซนอล โชว์ฟอร์มโหด บุกไปถล่ม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถึงบ้าน 6-0 พร้อมทำแต้มขยับขึ้นมาทาบ แมนฯ ซิตี ทีมอันดับ 2 ที่ 52 คะแนน และตามหลัง ลิเวอร์พูล ที่นำเป็นจ่าฝูงด้วยผลงาน 54 แต้ม เพียง 2 คะแนนเท่านั้น และต่อไปนี้คือ 5 โปรแกรมสำคัญในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นของทั้ง 3 ทีม ว่าใครมีโอกาสจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ไปครองมากที่สุด

 

 

เริ่มจาก หงส์แดง ลิเวอร์พูล ลงแข่งไปแล้ว 24 นัด มี 54 แต้ม ผลต่างประตูได้เสีย +32 ลูก

โดย ลิเวอร์พูล มีแต้มนำ แมนฯซิตี้ กับ อาเซนอล อยู่ 2 แต้ม และผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า แม้จะแข่งมากกว่า แมนฯ ซิตี อยู่ 1 นัดก็ตาม แต่ถ้าหาก หงส์แดง ต้องการจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เป็นสมัยที่ 2 ของสโมสร นัดที่เหลือต่อจากนี้ ต้องโชว์ฟอร์มให้ได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากปล่อยให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำแล้วจะตามลำบาก แถมมีแมชต์ที่ต้องเจอกันเองอีกในวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งอาจจะเป็นเกมที่ตัดสินแชมป์ก็เป็นได้

 

 

นอกจากนี้ วันที่ 17 มีค. ยังต้องเผชิญหน้ากับคู่อริร่วมเมืองอย่าง เอฟเวอร์ตัน และ ไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำศึกแดงเดือด ครั้งที่สองประจำฤดูกาล ในวันที่ 6 เม.ย. จากนั้น เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไก่เดือยทอง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ในวันที่ 4 พ.ค. ปิดท้ายด้วยการไปเยือน แอสตัน วิลลา ในวันที่ 11 พ.ค.

 

 

นอกจากนี้ยังต้องรักษาโอกาสลุ้นแชมป์บอลถ้วยทั้ง 2 รายการอีกด้วย ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มจาก คาราบาว คัพ (ลีกคัพ) รอบชิงชนะเลิศ ปะทะ เชลซี ต่อด้วยเอฟเอ คัพ รอบ 5 รอพบผู้ชนะระหว่าง วัตฟอร์ด หรือ เซาแธมป์ตัน

 

 

มาต่อที่แชมป์เก่า แมนฯ ซิตี ลงแข่งไปแล้ว 23 นัด มี 52 แต้ม มีผลต่างประตูได้เสีย +31 ลูก

แมนฯ ซิตี ได้ 2 กำลังสำคัญอย่าง เควิน เด บรอยน์ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ กลับมาสู่ทีมในสภาพฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง รวมทั้งจะแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงทันทีหากสามารถเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้สำเร็จในเกมนัดตกค้างในวันอังคารที่ 20 ก.พ.นี้

 

 

 

หลังจากนั้นต้องเจอศึกหนัก 3 แมตช์ซ้อน ด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันที่ 3 มี.ค. จากนั้นไปเยือน ลิเวอร์พูล ในวันที่ 10 มี.ค. รอซดกับ อาร์เซนอล ในวันที่ 31 มีค. และบุกไปเยือน สเปอร์ ในวันที่ 20 เม.ย. แต่ถ้าหากในเดือน มี.ค. ทีมของ เปป กวาร์ดิโอลา เก็บได้ 9 คะแนนเต็ม ก็คงไม่มีใครไล่พวกเขาทันแน่นอน

 

 

 

มาที่ อาร์เซนอล ลงแข่ง 24 นัด มี 52 แต้ม เท่ากับทีมแมนฯซิตี้ แต่แข่งมากกว่า 1 นัด มีผลต่างประตูได้เสีย +31 ลูก

อาเซนอล ของ มิเคล อาร์เตต้า โชว์ฟอร์มอย่างร้อนแรง จากการบุกไปถล่มทีมที่กำลังฟอร์มดีอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ถึงบ้าน 6-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ทีมกลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อีกครั้ง แต่ในวันที่ 24 ก.พ. นี้ ต้องเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมนิวคาสเซิล ที่ 4 นัดหลังสุดไม่เคยเอาชนะได้เลย นอกจากนี้ ในวันที่ 16 มี.ค. เดอะ กันเนอร์ส ยังพบศึกหนักกับ เชลซี ก่อนที่จะต้องยกพลบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี และ สเปอร์ ในวันที่ 31 มี.ค. และ 27 เม.ย. จากนั้นบุกบ้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันที่ 11 พ.ค. เรียกว่ามีเกมที่หนักไม่แพ้ ลิเวอร์พูล และ แมนฯซิตี้ เพราะถ้าหากเก็บแต้มได้ทั้งหมด โอกาสแชมป์ก็อยู่ไม่ใกล้เช่นกัน

 

 

 

นอกจากนี้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ยังฟันธงว่า “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จะเข้าวินชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกในเดือนพฤษภาคม โดยเฉือน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ได้รองแชมป์ เข้าอันดับ 2 ด้วย 83 แต้มเท่ากันจาก 38 นัด และแชมป์ฤดูกาลที่แล้ว “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี หล่นไปอยู่อันดับ 3 ได้ 81 แต้ม

 

 

 

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ทีมใดมีจะโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ไปครองได้มากกว่ากัน คงต้องลุ้นกันนัดต่อนัดเลยทีเดียว หากมีทีมใดพลาดท่าทำแต้มหลุดมือ ก็อาจทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์พลิกผันได้ทันที

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube