fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

นายกฯเมิน “พิธา-ศิริกัญญา” ติงมีแผน 2 ดิจิทัล

นายกฯ เมิน “พิธา – ศิริกัญญา” ติง รบ.ลุย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ย้ำ พร้อมฟังเสียงทุกฝ่าย แถลงผลสำเร็จแก้ไขหนี้ทั้งระบบคืบหน้าไปมาก

 

 

ภารกิจตั้งแต่ช่วงเช้าของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับนโยบายและวิสัยทัศน์ของรัฐบาล เรื่องความหลากหลายทางเพศ โดยมีการกล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล วิจารณ์โครงการดิจิทัลวอลเล็ตว่าควรต้องมีแผนสองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่เอาไข่ใส่ตะกร้าใบเดียว ว่า ตนเชื่อว่าเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่าประเทศเรามีนโยบายหลายอย่าง

 

ซึ่งรัฐบาลได้แถลงนโยบายไปหลายอย่าง อาทิ กระตุ้นการท่องเที่ยว เซ็นสัญญาเขตการค้าเสรี (FTA) ที่เยอะขึ้น การลงทุนข้ามชาติ นโยบายเกษตร พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ใส่ในตะกร้า ฉะนั้นถ้าเกิดสส.พรรคฝ่ายค้านมีความคลางแคลงใจก็จะแถลงไปเรื่อยๆเพื่อชี้แจงให้กระจ่าง ซึ่งอาจเป็นความบกพร่องของรัฐบาลที่ไม่ได้แถลงแต่เดี๋ยวรัฐบาลจะแถลงอและพูดคุยกันต่อไป แต่มองว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านอยู่แล้วที่ต้องเสนอแนะอะไรมา ส่วนหน้าที่รัฐบาลต้องรับฟังและไปพูดคุยกัน แต่เราก็รู้อยู่ไม่มีอะไรและเรารู้อยู่แล้วว่าทำอะไรอยู่ แต่อาจยังพูดไม่เยอะพอ

 

เมื่อถามย้ำว่าการที่นายนายพิธามองว่ารัฐบาลไม่มีแผนสำรอง นั้น มันไม่ใช่ พร้อมเชื่อว่า รัฐบาลมีหลายแผนงาน แต่อาจพูดไม่พอ พร้อมขอบคุณสำหรับคำเตือนคำแนะนำซึ่งจะพูดคุยให้เยอะขึ้น

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงข่าวความคืบหน้าผลการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ โดยระบุว่า กล่าวว่า ผ่านมาประมาณ 2 เดือน หน่วยงานต่าง ๆ ได้ดำเนินการคืบหน้าไปมาก จึงขอถือโอกาสแถลงความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน เพื่อชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงาน ชี้แจงปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น พร้อมแนวทางแก้ไข และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่กำลังประสบปัญหา แต่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ให้เร่งติดต่อหน่วยงานภาครัฐ เพื่อขอรับความช่วยเหลือต่อไป ซึ่ง ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI

 

ของการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชน ประกอบไปด้วย 3 ข้อหลัก ๆ คือ 1. หนี้สินที่ได้รับการแก้ไขปัญหาจะต้องครอบคลุมทั้งในส่วนหนี้นอกระบบ และหนี้ในระบบไปพร้อมกัน 2. เจ้าหนี้และลูกหนี้ที่มีการลงทะเบียนครบถ้วนจะต้องได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยกระบวนการไกล่เกลี่ย 100% และ 3. ลูกหนี้ที่ผ่านการไกล่เกลี่ยแล้วทุกรายจะต้องได้รับการพิจารณาสินเชื่อพิจารณา หรือปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งได้รับการช่วยเหลือพื้นฟูศักยภาพในการหารายได้

สำหรับการแก้หนี้นอกระบบ นายกฯ กล่าวว่า ได้มอบภารกิจให้กระทรวงมหาดไทย มีบทบาทในกระบวนการไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบทบาทในการดำเนินคดีอาญา หากเจ้าหนี้มีพฤติการณ์ข่มขู่ ใช้ความรุนแรง รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสถาบันการเงินของรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในการเป็นแหล่งเงินทุนช่วยเหลือลูกหนี้ที่ผ่านกระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว

 

ส่วนผลของการแก้หนี้นอกระบบ ตั้งแต่เปิดรับลงทะเบียน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 มียอดผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้มากกว่า 140,000 ราย ยอดมูลหนี้รวมทั้งสิ้นประมาณ 9,800 ล้านบาท ยอดของรายการที่มีข้อมูลครบและสามารถเข้ากระบวนการไกล่ได้ 21,000 ราย และไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้ว 12,000 ราย คิดเป็น 57% ของจำนวนที่เข้าสู่กระบวนการ และผลจากการไกล่เกลี่ยทำให้มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท จากยอดผู้ลงทะเบียนที่เป็นลูกหนี้มากกว่า 140,000 ราย และสามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จแล้วประมาณ 12,000 พันราย ถือว่าหนทางข้างหน้ายังท้าทายมาก สำหรับทุกหน่วยงาน

 

จากผลที่ทุกหน่วยงานได้ดำเนินการในระยะเวลาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการทำงานของทุกหน่วยงาน และความตั้งใจจริงของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ ซึ่งการดำเนินการทั้งหมด ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ ลูกหนี้จะต้องให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลถึงสาเหตุปัญหาที่แท้จริงและมูลหนี้ที่แท้จริง อย่ารอจนกลายเป็นหนี้เสีย ขอให้รีบเข้าไปหาสถาบันการเงิน เพื่อขอคำปรึกษา ขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ซึ่งสถาบันการเงินเจ้าหนี้มีมาตรการที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหาของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube