สถานการณ์ปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงในโลกออนไลน์ ยังคงเป็นปัญหาที่พี่น้องประชาชนประสบพบเจออยู่ในทุกๆวัน โดย พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีคดีที่ตำรวจไซเบอร์ รับเรื่องราวร้องทุกข์ ไว้ประมาณ 400,000 คดี และมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 54,000 ล้านบาท โดยแนวโน้ม ของความเสียหาย ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน
โดยรูปแบบ การหลอกลวงของมิจฉาชีพ ในเรื่องแอปพลิชั่นดูดเงิน ขณะนี้ กำลังระบาดหนักมากในช่วงนี้ เพราะคนร้ายใช้วิธีการส่ง SMS เข้ามายังโทรศัพท์มือถือ หรือ แม้แต่การโทรศัพท์เข้ามาแล้วแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมแนะนำประชาชนอย่างหลงเชื่อกดลิงก์ และ แอดไลน์เพิ่มเพื่อนอย่างเด็ดขาด
พล.ต.ต.นิเวศน์ ยังฝากถึงประชาชน ว่า เมื่อประชาชนถูกหลอกลวง ให้โอนเงินไปให้แก๊งมิจฉาชีพแล้ว สิ่งแรกที่อยากให้ทำก็คือ รีบโทรศัพท์ติดต่อ สายด่วน 1441 ศูนย์ AOC ของตำรวจไซเบอร์ ที่มีรับเรื่องร้องเรียนหรือรับแจ้งความตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ในศูนย์ AOC ที่ทาง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตั้งขึ้นมาร่วมกับ ตำรวจไซเบอร์ ในการที่จะให้คำปรึกษากับ ผู้เสียหาย แล้วก็ติดต่อธนาคารให้ด้วย เมื่อติดต่อธนาคารได้ ก็จะมีการระงับยั้งเงินในบัญชีให้ทั้งหมด จากนั้นจะมีการรับลงระบบรับแจ้งความออนไลน์ ที่ Thaipoliceonline.go.th ให้ด้วย หรือผู้เสียหายสามารถโทรแจ้งธนาคารต้นทางที่เราใช้โอนเงินไปให้คนร้ายได้อีกทางหนึ่งด้วย
พล.ต.ต.นิเวศน์ เน้นย้ำว่า การสร้างภาคีเครือข่ายในการเฝ้าระวังมิจฉาชีพในโลกออนไลน์ มีส่วนสำคัญมาก ต้องขอบคุณทางสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. และมูลนิธิร่วมด้วยช่วยกัน สำนึกรักบ้านเกิด เป็นอย่างมากที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ทำให้มีการกระจายข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ เพราะสิ่งที่จะปกป้องพี่น้องประชาชนได้ดีที่สุด คือต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง แล้วนำข้อมูลนั้นไปกระจายให้เป็นวงกว้าง ในรูปแบบต่างๆให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย
รอง ผบช.สอท. ยังฝากถึงหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนสำคัญในการกำกับดูแลเรื่องของระบบสถาบันการเงิน อย่างธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการติดต่อสื่อสารของพี่น้องประชาชน อย่างค่ายโทรศัพท์มือ ว่า ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย อยากจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ในเรื่องของข้อมูลที่ของคนร้าย ที่เป็นบัญชีม้า ที่ควรรีบส่งกลับมาให้เจ้าหน้าที่โดยเร็ว เพื่อจะได้รีบทำกระบวนการคืนเงินให้กับผู้เสียหายโดยเร็ว
ในส่วนของค่ายมือถือเอง แน่นอนว่ากลไกสำคัญ คือเบอร์โทรศัพท์ ที่ใช้ในการหลอกลวง ควรจะต้องรู้วันต่อวันว่าคนที่มาโทรหลอกประชาชน โทรมาจากจุดไหน อย่างไร คุยกันระหว่างค่ายมือถือ 3-4 ค่าย แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ไปจับกุมทุกวันหรือบ่อยขึ้น หากเป็นแบบนี้ถึงจะแก้ปัญหาได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
