ย้อนวาจา “พี่ศรี” คนดีย์? “ไร้ผลประโยชน์แอบแฝง”

ชื่อของ”พี่ศรี-ศรีสุวรรณ จรรยา “ดาวดัง เบอร์1 วงการร้องเรียน ยังคงถูกวิพากษ์ในวงกว้างจากกรณีถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์ รุ่นพี่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อย่าง อธิบดีกรมการข้าว หรือ อธิบดีโจ จนโดนย้อนศร ล่อซื้อ ตลบหลังถูกจับพ่ายคาบ้าน ซึ่งต่อมาลูกพี่ อธิบดีโจอย่าง “ธรรมนัส พรหมเผ่า” บิ๊กบอส กระทรวงเกษตร เดือดลั่น “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” ถ้าพูดกันไม่ได้ ก็ให้พังกันไปข้าง พร้อมบอกอย่ามองกระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้ร้ายเพราะเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ

เรื่องของคดีความให้กฎหมายนำทางว่าสุดท้ายแล้ว “พี่ศรี” จะไปจบลงที่ไหน แต่เมื่อย้อนกลับไปดูผลงานเก่าๆของ “พี่ศรี” พบว่าเขาเชี่ยวชาญ หรืออีกนัยหนึ่งเสพติดการร้องเรียนแบบเข้าเส้น ร้องมันดะ ว่ากันว่า ตลอดเวลา20กว่าปีที่ผ่านมา เขาทำคดีและร้องเรียนเรื่องต่างๆ มาแล้วไม่ต่ำกว่า 4,000 เรื่อง ร้องเรียนมาแล้วทั้งเรื่องการเมือง สังคม อาชญกรรม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และอื่นๆ ร้องมาตั้งแต่คนธรรมดา ข้าราชการ ตำรวจ ไล่เรื่อยไปถึงรัฐมนตรี รองนายกฯ และนายกฯ
แม้ว่าผลงานการร้องเรียน ส่วนใหญ่ จะไม่ประสบความสำเร็จ จั่วลมหวืดเสียส่วนมาก

แต่ที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงก็มีไม่น้อย เมื่อส่องดูงานระดับ “มาสเตอร์พีซ” ของ “พี่ศรี” คือ กรณีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กกต. ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ จากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรค แถลงข่าวตอนหนึ่งบอกว่า ได้ปล่อย “เงินกู้” ให้แก่พรรคอนาคตใหม่ยืม รวม 191 ล้านบาท

โดย กกต. ดำเนินการสอบสวนและส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมากให้ “ยุบพรรค” อนาคตใหม่ เนื่องจากเห็นว่าการกู้เงินดังกล่าวไม่ชอบด้วย พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ และสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด ทำให้ ธนาธร ปิยบุตร เลขาธิการพรรค และ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ต้องถูก “ตัดสิทธิทางการเมือง” และไปจัดตั้ง “คณะก้าวหน้า” ในเวลาต่อมา ส่วนอนาคตใหม่กลายเป็นก้าวไกล ฮอตฮิตในพ.ศ.นี้