“อิชิอิ” กุนซือคนที่ 3 พา “ทัพช้างศึก” ลิ่ว 16 ทีม ศึกเอเชียน คัพ
เรียกเสียงเฮได้อย่างเต็มเสียงแล้ว สำหรับแฟนบอลชาวไทย หลัง ทัพช้างศึก ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย สามารถผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกเอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ ได้สำเร็จ จากการนำทีมของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 56 ปี
ส่งผลให้ อิชิอิ กลายเป็นกุนซือชาวเอเชียคนแรก ที่พาทีมชาติไทยทะลุเข้ารอบน็อคเอาท์เวทีเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ทั้งที่เพิ่งรับงานคุมทัพ “ช้างศึก” อย่างเป็นทางการเพียงแค่ 1 เดือนเศษ พร้อมจารึกเป็นกุนซือคนที่ 3 พาไทยลิ่วน็อคเอาท์รายการนี้ ต่อจาก กุนเธอร์ กลอมบ์ โค้ชชาวเยอรมัน เมื่อปี 1972 ที่มี 6 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน และปี 2019 มี 24 ทีมเข้าร่วมการแข่งขัน โดยมี “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย นั่งแท่นเป็นเฮดโค้ช
ขณะเดียวกัน โค้ชอิชิอิ ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเอง ด้วยการพาทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตในฐานะกุนซือใหญ่ได้คุมทีมระดับทีมชาติ ในทัวร์นาเมนต์ลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเอเชียด้วย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ทัพช้างศึก ได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขัน บวกกับเงินอัดฉีด ไปแล้วกว่า 11 ล้านบาท โดยมาจากเงินสนับสนุนของเอเอฟซี ที่มอบให้ทั้ง 24 ชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 7 ล้านบาท รวมกับเงินอัดฉีดจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม อีก 4 ล้านบาท ที่มอบให้ทีมชาติไทย ทำให้ตอนนี้ก็มีเงินรางวัลในกระเป๋า 11 ล้านบาทด้วยกัน
ทั้งนี้ทีมชาติไทยมีโอกาสเพิ่มเงินรางวัลขึ้นไปอีก เป็น 12 ล้านบาท หรือ 14 ล้านบาทได้ หากสามารถเสมอซาอุฯ ได้อีก 1 ล้านบาท หรือ ชนะซาอุฯ ได้ รับ 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินอัดฉีดจากมาดามแป้ง ที่ให้แต้มละล้าน และถึงแม้จะแพ้ซาอุฯ แต่หากทีมสามารถผ่านเข้ารอบไปได้ อาจจะมีเงินอัดฉีดพิเศษอีกก้อนก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องมารอดูว่าท้ายที่สุดผลงานจะเป็นอย่างไร
ส่วนเงินรางวัลสำหรับการแข่งขันเอเชียน คัพ 2023 ครั้งนี้ ทีมแชมป์จะได้รับ 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 178 ล้านบาท, รองแชมป์ รับเงิน 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประาณ 106 ล้านบาท และถ้าตกรอบรองชนะเลิศ รับเงิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 35.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทัพช้างศึก ยังเป็นทีมเดียวจากย่านอาเซียนที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอ้าท์ ซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงนี้ต้องยกเครดิตให้กับทีมงานสต๊าฟโค้ชทุกคน ที่มอบความสุขนี้ให้แก่แฟนบอลชาวไทย และหวังว่านักเตะทีมชาติจะยังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทะลุเข้ารอบลึกๆต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
