อส.ทพ.ธีรพัฒน์ ชมชื่น พลาดคว้าเหรียญทองแดง การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก รายการเก็บคะแนนโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์”
การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่กรุงโบโกต้า ประเทศโคลอมเบีย ระหว่างวันที่ 5-16 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นรายการเก็บคะแนนโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2024 “ปารีสเกมส์” ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้านี้ทีมจอมพลังไทยคว้าไปแล้ว 5 เหรียญทอง และ 3 เหรียญเงิน จาก ธรรญธร สุขข์เจริญ 2 เหรียญทอง, 1 เหรียญเงิน/ สิริวิมล ประมงคล 1 เหรียญทอง, 2 เหรียญเงิน รุ่น 45 กิโลกรัม หญิง และ ธีรพงศ์ ศิลาชัย 2 เหรียญทอง รุ่น 55 กิโลกรัม ชาย
ขณะที่ “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ก่อนทางไปแข่งขันครั้งนี้ อส.ทพ.ธีรพัฒน์ มีอาการเจ็บป่วย ทำให้ฝึกซ้อมไม่เต็มที่ รวมทั้งหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เมื่อเดือน พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก็ได้เข้าไปฝึกทหารพรานด้วย หลังจากนี้จะมีเวลาฝึกซ้อมอย่างจริงจัง เชื่อว่าจะพัฒนาสถิติได้ดีขึ้นและจะก้าวเป็นกำลังสำคัญของทีมจอมพลังไทยในอนาคตได้แน่นอน
ล่าสุดกลางดึกวันที่ 7 ธันวาคม 2565 อส.ทพ.ธีรพัฒน์ ชมชื่น ลงแข่งขันรุ่น 61 กิโลกรัม ชาย กลุ่มบี ปรากฏว่าท่าสแนทช์ ทำสถิติ 128 กิโลกรัม ได้ที่ 7 ต่อมาท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 164 กิโลกรัม เท่ากับ เซอร์นา เมนโดซา จอห์น จายโร จากโคลอมเบีย แต่หนุ่มไทยออกมายกทีหลังจึงได้อันดับ 4 ส่วนจอมพลังโคลอมเบีย ทำสถิติได้ก่อนจึงรับเหรียญทองแดง ขณะที่น้ำหนักรวม อส.ทพ.ธีรพัฒน์ มี 292 กิโลกรัม ได้ที่ 6 ส่วน ลี ฟาบิน จากจีน โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม เหมา 3 เหรียญทอง ท่าสแนทช์ 137 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 175 กิโลกรัม พร้อมทำลายสถิติโลกของ ไอราวาน เอโค ยูลี จากอินโดนีเซีย ที่ทำไว้ 174 กิโลกรัม ลงได้ด้วย, น้ำหนักรวม 312 กิโลกรัม
สรุปผลงานจอมพลังไทยในศึกยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก ที่กรุงโบโกต้า ประเทศโคลอมเบีย คว้าไปแล้ว 5 เหรียญทอง และ 3 เหรียญเงิน
ทั้งนี้ สามารถชมถ่ายทอดสดได้ทาง https://olympics.com/en/olympic-channel ขณะที่การแข่งขันกลุ่มอื่นๆ สามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊กของInternational Weightlifting Federation https://web.facebook.com/iwfnet
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
