fbpx
Home
|
ข่าว

รามอส กดแฮตทริค! ‘โปรตุเกส’ ดับซ่า ”สวิส” 6-1 ลิ่วชน ‘โมร็อกโก’

Featured Image
กอนซาโล รามอส  ทำแฮตทริก พา โปรตุเกส ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกได้สำเร็จหลังไล่อัด สวิตเซอร์แลนด์ 6-1

 

 

ศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีม ระหว่าง โปรตุเกส ลงเล่นที่สนามลูเซล สเตเดียม ในเมืองลูเซล ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ สวิตเซอร์แลนด์

แฟร์นานโด ซานโตส กุนซือของโปรตุเกส เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น บรูโน แฟร์นันด์ส, กอนซาโล รามอส และ เชา เฟลิกซ์ ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ หลุดไปนั่งสำรอง

 

 

ด้านสวิตเซอร์แลนด์ของ มูรัต ยาคิน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น บรีล เอ็มโบโล ทำเกมรุกร่วมกับ ฟาเบียน รีเดอร์, ฌิบริล โซว์ และ รูเบน วาร์กัส

ผลปรากฎว่า ครึ่งเเรก เล่นมาเเค่ 17 นาทีโปรตุเกสได้ประตูออกนำ 1-0 จังหวะที่ เจา เฟลิกซ์ ไหลบอลให้ กอนซาโล รามอส นักเตะที่ส่งมาเเทนโรนัลโด้ เหมือนจะไม่มีมุม เเต่พลิกตัวซัดด้วยซ้ายบอลพรุ่งเสียบสามเหลี่ยวชนิดที่ แยน ซอมเมอร์ หมดสิทธิ์

เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 33 สกอร์ขยับเป็น 2-0 จากลูกเตะมุมที่เปิดเข้ามา เปเป้ สอดมาเทคได้โขกเต็มๆไม่เหลือ

จบครึ่งเเรกโปรตุเกสนำ 2-0

ครึ่งหลังเล่นมาถึงนาทีที่ 51 ทีมฝอยทองมาได้ประตูที่ 3 จังหวะที่ ดิโอโก้ ดาโลต์ เติมเกมขึ้นมาก่อนเปิดเข้ากลาง รามอส คนเดิมเเหย่เท้าเปลี่ยนทางบอลเข้าประตูไป

หลังจากนั้น 4 นาทีสกอร์ขยับเป็น 4-0 รามอส อีกเเล้วครั้งนี้จ่ายให้ ราฟาเอล เกร์เรโร่ หลุดเข้าเขตโทษซัดด้วยซ้ายเข้าไปอีก

นาทีที่ 58 สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ประตูตีไข่เเตกจากลูกเตะมุมที่เปิดเข้ามา รามอส พยายามโหม่งสกัดเเต่ไม่ดีกลายเป็นไปเข้าทาง มานูเอล อคานยี ยิงเข้าไปง่ายๆ

นาทีที่ 67 โปรตุเกสมาได้ประตูที่ 5 เฟลิกซ์ จ่ายบอลให้ รามอส หลุดอีกครั้งก่อนตักข้ามตัวซอมเมอร์เข้าไปอีกเป็นการทำแฮตทริกของดาวยิงวัย 21 ปีเเละเป็นคนเเรกในฟุตบอลโลกครั้งนี้ที่ทำแฮตทริกได้ด้วย

 

ช่วงทดเจ็บ ราฟาเอล เลเอา มาบวกประตูที่ 6 ให้ทีม ครบ 90 นาทีโปรตุเกสถล่มสวิตเซอร์แลนด์ขาดลอย 6-1 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับโมร็อกโกต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube