รบ.ย้ำจับจริงของหนีภาษี กรมศุลฯจับแล้วกว่า 780 ล้าน

รัฐบาลย้ำ จับจริงของหนีภาษี กรมศุลฯจับแล้ว ต.ค.67-ม.ค.68 มูลค่ากว่า 780 ล้านบาท เดินหน้าปราบปรามเข้ม ปกป้องผลผระโยชน์ประชาชนจากของผิดกฎหมาย
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมศุลกากร รายงานผลการจับกุมสินค้าผิดกฎหมายในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568(ต.ค. 67 – ม.ค. 68) รวมมูลค่ากว่า 780 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 25% สาเหตุหลักมาจากมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้นตามนโยบายรัฐบาล
โดยในรอบ4 เดือนที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถตรวจยึดสินค้าผิดกฎหมายได้หลายรายการ ได้แก่ บุหรี่ต่างประเทศ จับกุม 667 คดี ปริมาณ 17.39 ล้านมวน มูลค่า 90.32 ล้านบาท, บุหรี่ไฟฟ้าจับกุม 234 คดี มูลค่า 28.95 ล้านบาท, ยาเสพติด จับกุม 85 คดี คิดเป็นมูลค่ามากที่สุดถึง 637.10 ล้านบาท, ช่อดอกกัญชา จับกุม 361 คดี มูลค่า 24.75 ล้านบาท, ของอุปโภคที่ไม่ผ่านศุลกากร เช่น โลชั่นบำรุงผิวและทิชชูเปียก รวม 300,000 ชิ้น มูลค่า 7 ล้านบาท, ขยะอิเล็กทรอนิกส์ จับกุม 19 คดี น้ำหนัก 256.64 ตัน และเศษพลาสติก 8 คดี น้ำหนัก 367.20 ตันและเครื่องเล่นเกม (ตู้คีบตุ๊กตา) ถูกลักลอบนำเข้าแบบแยกชิ้นส่วน 132 ตู้ มูลค่า 1.6 ล้านบาท
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความปลอดภัยของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้รัฐบาล ยืนยันว่า จะเดินหน้าปราบปรามการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง โดยกำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าทุกช่องทาง พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเพื่อปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนให้ปลอดภัยจากสินค้าผิดกฎหมาย
นายเกรียงศักดิ์ เผยด้วยว่า ตอนนี้ถือว่าโทรศัพท์ของแตงโมได้ถูกใช้เป็นของกลางในคดีเรียบร้อยแล้ว ผู้ใดก็ไม่สามารถขอนำออกไปได้ ถือเป็นทรัพย์สินของหลวง หากมารดาของผู้เสียชีวิตจะขอคืนเครื่องก็ย่อมทำไม่ได้ นอกจากนี้ ขั้นตอนการตรวจพิสูจน์ระหว่างเจ้าหน้าที่นิติวิทย์ และดีเอสไอ จะเริ่มจากการวิเคราะห์ตรวจพิสูจน์วัตถุพยานก่อน อีกทั้งดีเอสไอเองจะต้องพิสูจน์ในสมมติฐานด้วยว่า มันมีภาพถ่ายตรงคอกม้าจริงหรือไม่ ต้องพิสูจน์คลิปวิดีโอทุกรายการ เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน
ก่อนนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นไปไล่เรียงไทม์ไลน์ จัดทำแผนผังเหตุการณ์ เรียงลำดับเหตุการณ์คืนวันเกิดเหตุ เนื่องด้วยไฟล์ภาพใดก็ตามล้วนมีนามสกุลไฟล์ที่จะบ่งชี้ถึงวันที่เเละเวลา จะทำให้รู้เลยว่าภาพนั้น ๆ ถูกบันทึกเมื่อวันเวลาใด พร้อมย้ำว่า ดีเอสไอมีกรอบเวลาเบื้องต้นในการสืบสวน 6 เดือน นับตั้งแต่มีการออกเลขสืบสวนที่ 20/2568 แต่ก็สามารถขยายเวลาได้อีก แต่ขอให้สังคมมีความมั่นใจว่าดีเอสไอจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและรอบคอบแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews