fbpx
Home
|
ข่าว

“สุพัฒนพงษ์” ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ประเทศ

Featured Image
“สุพัฒนพงษ์” มองไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ประเทศ เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น รับการระบาดรอบนี้กระทบเป้าจีดีพี 4% ที่วางไว้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่า ขณะนี้การส่งออกยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่รัฐบาลจะต้องกลับไปดูในเรื่องการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคในประเทศว่าจะกระตุ้นอย่างไร พร้อมกล่าวว่า การประชุม ศบค. ในบ่ายวันนี้ ต้องเน้นไปที่การสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะต้องดูแลควบคุมการระบาด ไม่ให้ประชาชนกังวล แต่ส่วนตัวเชื่อว่า สถานการณ์ดีขึ้น เพราะทุกคนปรับตัว และมีตัวอย่างผู้ติดเชื้อที่จังหวัดสมุทรสาครมาก่อน ซึ่งรัฐบาลดูแล และบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี และในขณะนี้ทุกคนต่างตระหนักรู้ เมื่อมีความกังวลว่าติดเชื้อก็เข้าสู่การตรวจหาเชื้อ ทำให้พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติเชิงรุกของตนเองรับผิดชอบต่อสังคม โดยที่รัฐบาลไม่ต้องสั่ง ส่วนตัวมองเป็นเรื่องที่ดี เมื่อพบเชื้อก็เข้าสู่การรักษา ซึ่งขณะนี้ระบบการรักษาในประเทศไทยมีเพียงพออยู่แล้ว
ส่วนมาตรการของ ศบค. ที่จะออกมาในช่วงบ่ายนี้ ส่วนตัวมองว่า ไม่จำเป็นต้องล๊อคดาวน์ประเทศ เพราะประสบการณ์จากจังหวัดสมุทรสาครที่มียอดผู้ติดเชื้อสูง แต่ก็สามารถบริหารจัดการผ่านมาได้

ส่วนที่แพทย์และกระทรวงสาธารณสุข เสนอใช้มาตรการที่เข้มข้มเพื่อหยุดการแพร่เชื้อ นายสุพัฒนพงศ์ มองว่าต้องรอที่ประชุม ศบค. ส่วนตัวเท่าที่ติดตามข่าว มองว่าไม่ได้เข้มข้นตามที่นำเสนอแต่อาจจะมีเข้มข้นบ้างในบางจุด คงไม่ถึงขั้นต้องล๊อคดาวน์ประเทศเช่น เดือนเมษยนปีก่อน ส่วนแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 ก.ค. นี้ จะส่งผลกระทบหรือไม่ ต้องประเมิณสถานการณ์รายวันแต่แผนไม่ได้หยุด ทุกคนยังเดินหน้าทำงานเช่นเดิม โดยเฉพาะการปฏิบัติการเชิงรุกดึงดูดนักลงทุนที่จะต้องทำ เพราะการระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลก และเท่าที่ทราบภาคธุรกิจกังวลเรื่องของความมั่นใจในการควบคุมทั้งสถิติผู้ติดเชื้อ และผู้หายจากการติดเชื้อซึ่งจะเป็นจุดตัดสินใจของภาคธุรกิจว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร ซึ่งการเดินหน้าเศรษฐกิจของรัฐบาลต้องควบคู่ไปกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค

ซึ่งจะทำงานอย่างเต็มที่ทั้ง 2 ทาง และขณะนี้ได้มีพระราชกำหนดออกมาช่วยเหลือภาคธุรกิจในการชำระหนี้แล้ว โดยมาถูกเวลา แต่ถ้าหากช้ากว่านี้ก็จะไม่เหมาะสม พร้อมยอมรับว่าการระบาดรอบนี้ส่งผลกระทบต่อตัวเลข GDP ของไทยที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 4 แต่ก็จะต้องกัดฟันสู้ พยายามหาโอกาสแม้จะเป็นรูที่เล็กแต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อทุกคนในประเทศ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศยังคงเดินหน้าต่อและยังคงมีโคงการดีๆยังรออยู่ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่และคนไทยทุกคน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube