ม.รังสิต สำรวจความเห็นดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น พบไม่เห็นด้วยกว่า 62.20% ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์เห็นด้วย แต่อยากให้ทบทวนเพิ่ม 36.70 % ด้านซอฟต์พาวเวอร์” เห็นด้วย 41.10 % ขณะแก้รัฐธรรมนูญ 52.40 % เห็นด้วยแก้บางมาตรา
วิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต จัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการLeadership Poll โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต, ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ รองคณบดีฝ่ายวิชาการวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม โดยนายสุริยะใส ระบุว่า การจัดทำโพลสะท้อนไปยังผู้นำรัฐบาลหน้าที่ของผู้นำคือความเป็นผู้ตามที่ฟังประชาชนให้ได้มากที่สุด โพลก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่เที่ยงตรงแม่นยำและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่สลับซับซ้อน
และโผล่ก็ได้สะท้อนความเห็นของผู้นำในภาคส่วนต่างๆที่เราสำรวจมา Leadership Poll คือ กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้นำมาร่วมทำแบบสอบถาม ทางภาคธุรกิจภาคสังคม ภาคประชาชน ภาคการศึกษา อย่างกว่า 500 คน ซึ่งในอนาคตอาจจะเพิ่มตัวอย่างเป็น 1,000-2,000 คน
ด้านร.ต.อ.จอมเดช กล่าว่า โพลชุดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มผู้นำภาคสังคม, ธุรกิจและการเมือง ต่อนโยบายภาครัฐที่อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการในปัจจุบัน เก็บข้อมูลทั้งสิ้น 543 ตัวอย่างในเดือนม.ค.67 จากกลุ่มผู้นำภาคสังคม, ธุรกิจและการเมือง โดยคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 4 กลุ่ม
ได้แก่ ผู้นำภาคธุรกิจ: ตัวแทนนักธุรกิจที่ประกอบธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ , ภาคประชาสังคม: ตัวแทนภาคประชาสังคม NGO และมูลนิธิต่างๆ ในประเทศไทย , ภาคการเมือง: นักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่น นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี นายกและรองนายก อบจ. นายกและรองนายก อบต. ในทุกภูมิภาคของประเทศ, ภาคการศึกษา: นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัยผู้ดำรงตำแหน่งคณบดี รองคณบดี ในมหาวิทยาลัยรัฐ และมหาวิทยาลัยเอกชน
สอบถามความคิดเห็นต่อนโยบายรัฐบาลเงินหมื่นดิจิทัล” ของรัฐบาล 62.20% ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเห็นควรให้ระงับการดำเนินการ, 21.30% เห็นด้วยกับการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวแต่เห็นควรให้ชะลอการดำเนินการหรือมีการทบทวนการดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง,13.00% เห็นด้วยตามที่รัฐบาลนำเสนอและควรเร่งดำเนินการตามกรอบเวลา
ความคิดเห็นต่อยุทธศาสตร์ขับเคลื่อน “ซอฟต์พาวเวอร์” ของรัฐบาลพบว่า 41.10% เห็นด้วยตามที่รัฐบาลนำเสนอและควรเร่งดำเนินการตามกรอบเวลา,37.30 % เห็นด้วยกับการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวแต่เห็นควรให้ชะลอการดำเนินการหรือมีการทบทวนการจัดสรรงบประมาณอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้ง 14.50 % ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเห็นควรให้ระงับการดำเนินการ
นอกจากนี้ความคิดเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พบว่า 52.40% เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา 28.8% เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 14.5% ไม่เห็นด้วย 4.3%
ส่วนความคิดเห็นต่อความมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศไทย 51.20% ยังคงขาดความมุ่งมั่นในการดำเนินการ 34.90% มีความมุ่งมั่นแต่ยังไม่มีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
