fbpx
Home
|
ข่าว

“จิรัฏฐ์” ปิดทาง ยันไม่เปิดใบ สด. 43 ต่อสาธารณะ

Featured Image
“จิรัฏฐ์” ปิดทาง ยันไม่เปิดใบ สด. 43 ต่อสาธารณะ บอกมีเหตุผลเดียว กลัวถูกปลอมแปลง ย้ำเอกสารที่ได้เป็นของแท้แน่นอน ไม่กล้าปลอมอยู่แล้ว เผยได้มาวันเดียวกับขึ้นศาล โบ้ย จนท.รัฐสอบเองจริงหรือไม่

 

 

 

 

นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีที่ กองบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ออกมาแถลงข่าวเตรียมเอาผิดกรณีการปลอมแปลงเอกสารราชการ ใบ สด.43 ของนายจิรัฏฐ์ เมื่อวานนี้โดยนายจิรัฏฐ์ ย้ำเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์สื่อไว้ก่อนหน้านี้ว่า ปลอมหรือไม่ ไม่ใช่หน้าที่ของตนในการพิสูจน์ แต่ต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานราชการในการพิสูจน์ พร้อมยืนยันว่า เอกสารที่ตนมี ไม่ใช่เอกสารปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์ และตนก็ไม่กล้าปลอมด้วย ตนกำลังถูกกล่าวหาว่าปลอมแปลงเอกสารราชการในเรื่องคดีที่หมดอายุความไปแล้ว ไม่เป็นเหตุเป็นผลเลย จึงยืนยันว่า “ของแท้แน่นอน”

 

 

ในวันที่ไปรับเอกสาร มีลำดับเหตุการณ์อย่างไรบ้าง นายจิรัฏฐ์ ชี้แจงว่า วันนั้นตนเดินทางไปคนเดียว เพื่อไปหาสัสดี ที่ว่าการอำเภอ เขาก็พาขึ้นรถไปที่ศาล และดำเนินการตามกระบวนการ ในข้อหาไม่มารายงานตัวในวันเกณฑ์ทหาร จนกระทั่งได้รับใบ สด.43 นอกจากนี้ตนยังคิดว่า คนที่ได้ใบ สด.43 ทั่วประเทศ จะได้รับจากมือประธานกรรมการคัดเลือกหรือไม่ ก็ไม่ทราบ ส่วนเรื่องการพิมพ์ลายนิ้วมือ ตนได้ตรวจสอบกับหลายคนแล้ว พบว่า ประมาณ 30-40 คนก็ไม่มี และส่งเอกสารมาให้ตนดูผ่านทางอินบ๊อกซ์แล้ว

 

 

ทั้งนี้ มีหน่วยงานของกองทัพติดต่อมาแล้วหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ “ส่ายหน้า” แล้วกล่าวว่า “ยัง”ถ้าไม่เปิดเอกสารก็จะคลายข้อสงสัยไม่ได้ สังคมเรียกร้องให้เปิด นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนยินดีเปิด ก็รอให้มาตรวจสอบ แต่จะไม่เปิดต่อสาธารณะ เพราะมีตัวเลขที่ต้องระวัง ทั้งนี้ ตนเอาให้พี่นักข่าวดูได้ แต่ขอแค่ไม่ถ่ายรูปไว้ อยากให้เป็นหน้าที่ของส่วนราชการเท่านั้น

 

 

สำหรับใบ สด.43 ได้มาวันที่ขึ้นศาลเลยหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ ยืนยันว่า เป็นวันเดียวกัน แล้ววันที่จับใบดำใบแดงเป็นวันไหน นายจิรัฏฐ์ ตอบว่า “มันไม่ใช่วันนั้นไง เพราะตนมีความผิดที่ไม่ได้ไปรายงานตัว ตนจับใบดำใบแดงหลังจากนั้นถ้าไปจับหลังจากวันที่ไปศาล จะไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีการจับใบดำใบแดงกัน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนถึงได้บอกว่า ต้องให้หน่วยงานรัฐมาตรวจสอบ เพราะตนก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ตนก็ชี้แจงตามที่เกิดขึ้น

 

 

ได้ไปจับใบดำใบแดงหลังจากที่เพื่อนเขาจับกันใช่หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ว่าไปจับหลังจากนั้น 1 ปี หรือ 1 วัน แต่พอรู้ตัวว่าทำผิด ก็รีบไปรายงานตัว ขณะข้อกล่าวหาที่ชั้นศาลคืออะไร นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้มารายงานตัว ซึ่งวันต่อไปก็ไปจับใบดำใบแดง ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่าเป็นวันที่เขาจับใบดำใบแดงใช่หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า น่าจะอยู่นะ สิบกว่าปีแล้ว อย่าลืม ตนก็พยายามทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงเอกสารกว่าจะหาเจอก็ใช้เวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งในปีนั้น ตนทำเรื่องผ่อนผันไว้ เพราะติดสอบธีซิส (เล่มวิจัย)

 

 

ปกติคนที่ไม่ไปเกณฑ์ทหารจะถูกดำเนินคดีหนีทหารเลย ทำไมถึงไม่โดน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ถ้าดูตามไทม์ไลน์ แปลว่าตนมีความผิด เป็นนักโทษตั้งแต่ปี 2555 ทำไมไม่มาจับตน ตนก็อยู่ที่บ้านหลังเดิม ไม่ย้ายไปไหน สถานีตำรวจก็อยู่ใกล้แค่นิดเดียว ในขณะที่คนอื่นถ้าหนีทหาร ก็โดนจับถึงบ้านแล้ว ไม่ใช่หรือ แค่ปีเดียว ปีแรกก็ต้องมาตามจับแล้ว ส่วนจะมีการติดต่อไปยังกองทัพเองหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า กมธ.การทหารรับเรื่องไว้แล้ว ตนยินดีให้ตรวจสอบทั้ง กมธ.การทหาร และ คณะกรรมการจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร

 

ส่วนที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธาน กมธ.การทหาร ระบุว่า อาจมีการซัดทอดว่ามีการซื้อใบ สด.43 หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนยินดีให้ตรวจสอบอยู่แล้ว รออยู่ว่าจะมาเมื่อไรอย่างเดียว ตนจะได้ไปทำอย่างอื่นบ้าง ซื้อใบ สด.43 มาจริงหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ ชี้แจงว่ส บ้านตนไม่มีเส้นสาย ไม่รู้จักนักการเมือง เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แค่บอกว่าจะไปซื้อก็ยังไม่รู้จะบอกใครเลย ไม่มีเส้นสายแล้วจะไปติดต่ออย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่ากระบวนการที่ได้มาถูกต้อง

 

 

ขณะเดีนวกัน นายจิรัฏฐ์ มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิต เพราะมีคนร้องเรียนแค่ 2 วัน ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวแล้ว ส่วนคำถามที่ตนถามกองทัพไม่เห็นแถลงบ้างเลย ทำหนังสือไปก็ไม่ตอบ  ส่วนเหตุผลที่ไม่เปิดใบ สด.43 เพราะกลังจะมีคนปลอมแปลงใช่หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวยอมรับ รวมถึงไม่อยากให้เป็นประเด็นอื่นอีก แต่ถ้าให้เบลอข้อมูลสำคัญจากต้นทางได้หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ก็จะเหมือนกับที่ไปมติชน ที่ตอนแรกที่เห็นว่าไม่มีลายมือ ตนจะปั๊มลงไปยังได้เลย แต่มันเป็นเอกสารราชการ ใครจะกล้า ในเมื่อมันไม่มี ก็ต้องเปิดแบบนั้น

 

 

อย่างไรก็ตาม ได้ตรวจสอบชื่อคนที่เซ็นในใบไว้หรือไม่ว่ายังมีตัวตน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เท่าที่ตนดูพบว่ามีลายเซ็นประมาณ 5 คน บางคนก็อ่านชื่อไม่ออก เพราะเป็นลายเซ็น ตนก็ไม่ได้ไปเช็ค แต่เจ้าหน้าที่รัฐเช็คได้ ก็แค่ไปดูว่าใครทำหน้าที่ตอนปีนั้น และที่บอกว่าไม่เจอต้นขั้ว อยากให้ตรวจสอบ เพราะที่แถลงว่าไม่มีชื่อ นวรินทร์(ชื่อเดิม) ตนเข้าใจได้ แต่ถ้าไม่มีชื่อจิรัฏฐ์ ตนว่ามีปัญหาแล้ว

 

นายจิรัฏฐ์ ยังกล่าวว่า ตนอยากให้กองทัพตรวจสอบเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะมากกว่า แล้วหากมีการตรวจสอบสุดท้ายแล้วพบว่าเจ้าหน้าที่ผิด และนายจิรัฏฐ์ก็ผิด มีการประเมินสถานการณ์นี้ไว้หรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าไม่มีทางผิดแน่นอน

 

 

หลังจากนั้น นายจิรัฏฐ์ ได้เปิดเอกสาร สด.43 ให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยไม่อนุญาตให้มีการถ่ายภาพ ซึ่งผู้สื่อข่าวพบว่าในเอกสารนั้น มีการระบุเป็นชื่อนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ไม่มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่มีการเซ็นชื่อนายจิรัฏฐ์ เพื่อรับเอกสาร พร้อมทั้งมีการระบุว่า เป็นบุคคลที่จับได้ใบดำอย่างชัดเจน มีลายเซ็นนายทหารรับรองในเอกสาร และในแฟ้มเอกสารเดียวกัน นายจิรัฏฐ์ยังได้เก็บเอกสารในการขอผ่อนผันการเกณฑ์ทหารมาโดยตลอดระหว่างการศึกษา รวมถึงใบเรียกไปรายงานตัวในการเกณฑ์ทหาร ตั้งแต่ใช้ชื่อเดิมจนกระทั่งเปลี่ยนชื่อใหม่ไว้ด้วย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube