“สุริยะ” ตบปากฝ่ายค้าน อย่าจินตนาการว่าจะเกิด “แลนด์บริดจ์” ขึ้นไม่ได้ บอกนายกฯ พบนักลุงทุนต่างชาติสนใจเพียบ ชี้ เป็นโครงการใหญ่ในรอบ 20 ปีต่อจาก”สุวรรณภูมิ” เชื่อเพิ่ม GDP 5-6%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปโครงการแลนด์บริดจ์ MR8 จังหวัดระนอง , โครงการแนวเส้นทางเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน ระนอง – สตูล ว่า ในปี 2545 นาย ทักษิณ ชิณวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการให้กระทรวงคมนาคมก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อก่อสร้างเสร็จ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ภูมิภาคซึ่งตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ 20 ปีผ่านไปเราไม่มีโครงการใหญ่แบบนี้เลยเมื่อพิจารณาแล้ว นายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน
เห็นว่า การที่ประเทศไทยจะสามารถยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเราได้ เราจึงควรมีในกับโปรเจคเรื่องแลนด์บริดจ์ขึ้นมา ซึ่งโครงการแลนด์บริดจ์นี้เป็นการศึกษาจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ที่มีการศึกษาออกมาอย่างชัดเจน แต่ในหลักการของโครงการทางรัฐบาล จะลงทุนในส่วนของการเวนคืน ส่วนการลงทุนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนนการ สร้างรางรถไฟและการก่อสร้างอื่นๆ เป็นการลงทุนของภาคเอกชนทั้งสิ้น
ดังนั้น ที่มีการตั้งคำถามในสิ่งที่ สนข.ศึกษาไว้นักลงทุนต่างประเทศจะเชื่อหรือไม่ ก็บอกได้เลยว่าหากเขาไม่เชื่อเขาก็ไม่มาลงทุน นอกจากนี้ เมื่อครั้งนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ต่างประเทศก็ได้ไปประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้และพบว่ามีนักลงทุนจำนวนมากที่ให้ความสนใจ
ส่วนที่มีคำถามจาก สส.ฝ่ายค้านว่าเราจะไปหลอกนักลงทุนหรือไม่ นายสุริยะ ก็ตอบได้เลยว่านักลงทุนเราจะไปหลอกเขาได้หรือ โครงการนี้จะทำให้ GDP ของเราเพิ่มขึ้น 5-6% อีกทั้งจะมีการสร้างงานในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 200,000 ราย ฉะนั้นตนเข้าใจว่าฝ่ายค้านไม่ได้เห็นบรรยากาศที่เราไปเจอ จึงจินตนาการไปว่ามันเกิดไม่ได้
นายสุริยะยัง กล่าวด้วยว่า สำหรับการสร้างความเชื่อมั่น ต่อนักลงทุนที่มีการถมทะเลกว่า 12,000 ไร่นั้น ตนให้นโยบายกับสนข.ไปว่า ต้องให้ความสำคัญต่อประชาชนในพื้นที่สิ่งใดที่รับฟังมาแล้วแก้ไขได้ต้องหาวิธีแก้ไข อะไรที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่เข้าใจก็ต้องอธิบาย ทั้งนี้หากภาคประชาชนและนักลงทุนทั้งหลายมีความเข้าใจก็จะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปได้
นายสุริยะ ยังกล่าวว่า สำหรับค่าชดเชยให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ถ้าโครงการนี้เริ่มต้นขึ้นก็จะเริมการเยียวยาได้ ส่วนประชาชนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ก็ต้องแยกการเยียวยาออกอีกแบบ ซึ่งได้มีการหารือกันกันต่อ
ในช่วงท้าย บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด เนื่องจากผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ตั้งคำถามถึงการเวนคืนที่ดิน และความคุ้มค่าว่าจะมีนักลงทุนมาลงทุนจริงหรือไม่ โดยนายสุริยะ ตอบยังมีอารมณ์ว่า “ถ้าไม่เป็นจริงนะครับ ทำไมทางเอกชนมาขอลงทุน หรือจะมาพบ อันนี้เป็นคำตอบชัดเจนอยู่แล้ว ว่าข้อมูลของ สนข. เป็นจริงหรือไม่” นายสุริยะ ชี้นิ้วขึ้น พร้อมกล่าวว่า จริงหรือไม่นั้นตัดสินโดยนักลงทุน เมื่อนักลงทุนอย่างบริษัทใหญ่ที่สุดในโลก เศรษฐีของอินเดียเขาจะมา มันเป็นคำตอบที่จริงกว่าที่ตนพูด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews