fbpx
Home
|
ข่าว

“รมช.มนพร” เหมาตอบกระทู้สด “แลนด์บริดจ์”

Featured Image
“รมช.มนพร” เหมาตอบกระทู้สด”แลนด์บริดจ์” ชี้อยู่ระหว่างการศึกษาทุกมิติ รับฟังทุกความเห็น พร้อมย้ำหากไม่คุ้มค่าจะทบทวน ด้าน “ก้าวไกล” งง ศึกษาไม่เสร็จ “นายกฯ” ไปเร่ขายทำไม หวั่นจะขายหน้า

 

 

 

 

 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระกระทู้ถามสด ซึ่งมีประเด็นตั้งถามเกี่ยวกับการทำโครงการแลนด์บริดจ์ เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน ซึ่งมีผู้ตั้งถาม จำนวน 2 กระทู้ จาก สส.พรรคเพื่อไทย และ สส.พรรคก้าวไกล โดยรัฐบาลส่ง นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เป็นผู้ชี้แจงแทน เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม มีภารกิจที่ต่างประเทศ

 

 

ทั้งนี้ นางมนพร ตอบกระทู้ถามสด ซึ่งตั้งถามโดย สส.ของพรรคเพื่อไทยว่า จากการโรดโชว์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง และนายสุริย จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่ต่างประเทศ พบว่ามีนักลงทุนให้ความสนใจและเข้าร่วมหารือ ซึ่งนักลงทุนสนับสนุนเพราะต้องการช่องทางขนส่งทางเรือที่สามารถขนส่งสินค้าได้สะดวก ล่าสุดนายเศรษฐา

 

 

ที่เดินทางไปยังกรุงดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ได้พูดคุยกับนักลงทุนใน กลุ่มสหภาพยุโรป ได้รับเสียงตอบรับ ได้รับความสนใจและตอบรับนักธุรกิจเชิงบวก ได้ขยายความคิดและโครงการให้นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งประเทศไทยต้องการโอกาสทำโครงการขนาดใหญ่เพื่อให้ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน

 

 

นางมนพร กล่าวด้วยว่าโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทุกโครงการต้องฟังความเห็น ออกกฎหมาย ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม เสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งตนเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการฯ ได้เชิญคนที่เห็นด้วยและเห็นต่างให้ความเห็น รวมถึงศึกษาทุกมิติ อาทิ ความมั่นคง อุตสาหกรรม ต่างประเทศ สิ่งแวดล้อม และให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

 

 

ทั้งนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแลนด์บริดจ์ มีผลกกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นความท้าทายที่ต้องวางแผนเพื่อแก้ปัญหา ผลกระทบในพื้นที่ที่ รวมถึงคำนึงถึงการเวนคืนที่ดินในราคาที่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจให้กับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ นอกจากนั้น กรรมาธิการฯ ได้ลงพื้นที่ฟังเสียงประชาชน พบว่า ประชาชนส่วนหนึ่งคัดค้านเพราะไม่อยากสูญเสียที่ดินทำกินดั้งเดิม สิทธิในที่อยู่อาศัย และการประมงพื้นบ้าน ซึ่งรัฐบาลไม่ละเลยเสียงคัดค้านดังกล่าวและเตรียมออกกฎหมายพิเศษในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน

 

 

โดยนำความเห็นของประชาชนมาพิจารณา ทั้งนี้ความเปลี่ยนแปลงจะนำไปสู่สิ่งที่ดีเสมอ รมช.คมนาคม ตอบคำถามถึงการศึกษาโครงการและระยะเวลาสิ้นสุด หลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุว่าจะใช้เวลาถึงปี 2573 ว่า ในการศึกษาแบ่งเป็น 3 ส่วน โดย 1. ศึกษาความเหมาะสมโครงการ การออกแบบท่าเรือ รูปแบบการลงทุน ซึ่งรับผิดชอบโดย

 

 

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โดยใช้เวลา 1 ปี, 2. งานก่อสร้างรถไฟขนส่ง ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจ้างที่ปรึกษา วางหมุดเส้นทางและ เวนคืน พร้อมกับรับฟังความเห็นของประชาชน และ 3. การทำอีไอเอ ในส่วนของการกก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ที่กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณ ปี2567 เพื่อจ้างที่ปรึกษาออกแบบเบื้องต้น

 

 

ขณะที่การตั้งกระทู้ถามของ สส.พรรคก้าวไกล โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ซักถามถึงรายละเอียดของผลการศึกษาบนข้อเท็จจริง เช่น สายการเดินเรือ การลดค่าใช้จ่ายในสายการเดินเรือที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุนระหว่าง แลนด์บริดจ์เมื่อเทียบกับช่องแคบมะละกา รวมถึงประมาณการเรือขนส่งที่จะใช้เส้นทางแลนด์บริดจ์ตามผลการศึกษาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ตนฐานะฝ่ายค้าน ไม่ได้ค้านไปเรื่อย แต่จากการรับฟังข้อมูลไม่พบรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริง แต่พบเป็นข้อมูลเพื่ออวยเท่านั้น และฝันใหญ่เท่านั้น

 

 

จากผลการศึกษา พบว่า การขนส่งจะเสียเวลา 7-10 วัน ที่จะขนย้ายสินค้าขึ้นลง และสายการเดินเรือต้องเพิ่มจำนวนเรือ 7-10 ลำ ถือว่ามีค่าใช้จ่ายและเสียเวลาที่มากกว่า ช่องแคบมะละกา และช่องทางเดินเรืออื่นๆ ดังนั้น รัฐบาลต้องมีข้อมูลที่มีนัยสำคัญที่จะบอกในความคุ้มค่าของการลงทุน ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา สภาพัฒน์ฯ บอกว่าโครงการดังกล่าวไม่คุ้มค่า และเสนอให้ลดขนาดของโครงการและลงทุน รวมถึงผลระทบชุมชน ผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ขณะนี้รัฐบาลต้องการเพิ่มขนาด ข้อมูลทางธุรกิจไม่ชัดเจน แต่ไปเร่ขาย ซึ่งจะขายของหรือขายหน้าต้องรอดู

 

 

 

โดยนางมนพร ยอมรับว่า ทุกโครงการมีผลกระทบ จึงใช้กลไกของสภาฯ ผ่านกรรมาธิการฯ ที่ประกอบด้วยทุกพรรคการเมืองเพื่อพิจารณาศึกษา ประชุมกว่า 10 ครั้ง และลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระททบ จากนั้นเมื่อศึกษาแล้วจะนำมาให้สภาฯ พิจารณาและสส.สามารถให้ความเห็นได้ หากส่วนใหญ่เห็นชอบให้รัฐบาลจะพิจารณาว่ามีสาระทำโครงการหรือไม่ หากตั้งโครงการและจะทำ ต้องมาขอความเห็นชอบจากสภาฯ ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ หากพบว่าของบสูงเกินไป สามารถอภิปรายปรับลดได้

 

 

ทั้งนี้ ก่อนทำโครงการได้มีการศึกษารายละเอียดใน 10 ส่วน ยืนยันว่า ไม่มีการหมกเม็ด ทั้งระบบโลจิสติกส์ การออกแบบ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์รูปแบบการลงทุน การออกแบบท่าเรือ 84% สถานะประเมินผลเกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อม ข้อกังวลของประชาชน ชาวประมง การขับเคลื่อนและการร่วมทุน ซึ่งกระบวนการแต่ละส่วนอยู่ระหว่างการศึกษา ทั้งนี้ในข้อห่วงใยของฝ่ายค้านจะนำไปพิจารณาประกอบการศึกษาด้วย

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube