รำลึก 31 ปี เหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม เพื่อไทย ก้าวไกล ไทยสร้างไทย ร่วมสดุดีถึงญาติวีรชนผู้กล้า
นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดงานรำลึก 31 ปี เหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม ณ สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรมโดยมีพิธีวางมาลา และกล่าวสดุดีวีรชนพฤษภาประชาธรรม เริ่มจากปริญญา เทวานฤมิตรกุล ประธานมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม กล่าวรายงาน
และนายสัมฤทธิ์ สุมาลี ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระนคร วางมาลา และกล่าวรำลึกวีรชน จากนั้น เป็นตัวแทนจาก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมถึงผู้แทนพรรคการเมืองต่างๆ ผู้แทนภาคเอกชนและภาคประชาชน ร่วมวางมาลัย และกล่าวรำลึกวีรชน
สำหรับผู้แทนพรรคการเมืองวันนี้ มีนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และน.ต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย มาร่วมงาน
โดยนายแพทย์ชลน่าน กล่าวสดุดีถึงญาติวีรชนผู้กล้าพฤษภา 35 ในนามพรรคเพื่อไทยและในฐานะผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นวันครบรอบ 31 ปีได้มาร่วมสดุดีต่อหน้าอนุสรณ์สถานแห่งนี้ สิ่งที่มุ่งหวังไม่ใช่เพียงการรำลึกถึงความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่ที่ผ่านมา สะท้อนความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย ยังอยู่ในวังวนและเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของผู้คนในชาติเอง เพื่อหวังจะอยู่ในอำนาจ เพื่อหวังใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์และพวกพ้อง การบาดเจ็บล้มตายไม่ใช่เพียงในปี 2535 แต่หลังจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์อื่นซ้ำอีก
โดยเชื่อว่าผู้สูญเสียและผู้สูญหายจะมีรอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้น เพราะวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ชัดเจนที่บ่งบอกถึงข้อเรียกร้องถึงความเป็นประชาธิปไตยปลูกฝังไปในจิตสำนึกของคนไทยส่วนใหญ่พอสมควร อย่างน้อยประชาชนออกมาใช้อำนาจผ่านบัตรเลือกตั้งที่ต้องการเปลี่ยนแปลง รัฐราชการ รัฐทหาร ด้วยการเลือกฝ่ายเสรีประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น นั่นแสดงให้เห็นว่า ต้องการออกจากสิ่งที่เป็นอยู่ ไม่ต้องการให้มีอำนาจแอบแฝงเข้ามาเกี่ยวข้องการเมือง ทั้งนี้ ในนามของพรรคการเมืองมั่นใจว่า เป็นสถาบันทางการเมืองที่จะเป็นแกนกลางในการสืบสานเจตนารมย์ของเหล่าวีรชนผู้กล้าเพื่อให้ประชาธิปไตยที่มุ่งฝันต้องการให้มันเป็นจริง
เพราะพรรคการเมืองคือกลไกที่สุดในการรับมอบอำนาจจากพี่น้องประชาชน และการมอบอำนาจต้องนำไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน
ด้านนายชัยธวัช กล่าวสดุดีถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนเรียกร้องนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งไม่เอานายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร เมื่อ 31 ปีที่แล้ว ถือยังเป็นบทเรียนที่ไม่มีบทสรุปร่วมกันในสังคม หากไม่อยากเห็นผู้มีอำนาจรัฐ ใช้การปราบปรามประชาชนจนเกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย
ดังนั้น ต้องไม่ปล่อยให้เกิดวัฒนธรรมลอยนวลอีกต่อไป การแสวงหาข้อเท็จจริงในหลายเหตุการณ์ในอดีต ต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในพฤษภา 35 อีก รวมถึงเสรีภาพของสื่อมวลชนด้วย และขอให้เหตุการณ์พฤษภา 35 เป็นเหตุการณ์พฤษภาแห่งความหวัง ขอให้การเสียชีวิตสละร่างกายครอบครัวของวีรชน ไม่สูญเปล่า
ขณะคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภา 35 เชื่อว่าการรัฐประหารคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว รวมถึงการสืบทอดอำนาจ แต่ตนคิดผิด เพราะเหตุการณ์นี้ยังซ้ำรอย หนักกว่าเดิม ทำให้ติดหล่มลงรากลึกมากขึ้น ถือเป็นสิ่งที่เลวร้าย จึงอยากใช้โอกาสนี้ในฐานะคนที่เคยอยู่ในเหตุการณ์พฤษภาประชาธรรม ขอให้กำลังใจและเห็นใจของญาติวีรชน
โดยเข้าใจถึงความเจ็บปวด หัวใจความสูญเสียและไม่อยากให้วีรชนที่เสียไปต้องเป็นเพียงเหตุการณ์ที่สูญเสียไปแล้วถูกลืม ดังนั้น ขอให้ฉันทามติ 14 พค. ที่ผ่านมา เป็นจริง เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีใครมีวาระแอบแฝงซ่อนเร้น และขอเริ่มต้นประเทศกันใหม่ ในการร่วมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
