fbpx
Home
|
ข่าว

ผบ.กองเรือยุทธการขอพึ่งบารมี “เสด็จเตี่ย” หา 30 กำลังพล

Featured Image
ผบ.กองเรือยุทธการ ขอพึ่ง บารมี “เสด็จเตี่ย” พบ 30 ทหารเรือ ก่อนพระอาทิตย์ตกวันนี้ พร้อมปูพรหมค้นหา ทางน้ำ-ฟ้า-ฝั่ง ขอ พ่อแม่ วางใจจะทำเต็มที่ เผย “บิ๊กหนุ่ย” ห่วง ลูกชายมาก

 

 

พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวถึง ความคืบหน้าการค้นหากำลังพล 30 นายที่สูญหาย จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางจมใต้ทะเลว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ กองทัพเรือ ระดมสรรพกำลังทั้งคน ยุทโปกรณ์ เรือ เฮลิคอปเตอร์ และในส่วนที่ กองทัพอากาศสนับสนุน

 

มีทั้ง เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงนเรศวร เรือกลวงกระบุรี เรือภูมิพล ถือเป็นเรือใหญ่ที่มีศักยภาพมหาศาล รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ค้นหา 2 ลำ และเครื่องบินค้นหาอีก 2 ลำ ส่วน กองทัพอากาศ ส่ง เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินมาช่วยอย่างละ 1 ลำ บินลาดตระเวณ และใช้กำลังพล ปูพรหมเดินเท้าค้นหาตามหายหาด ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ถึง 18.00 น. ก่อนพระอาทิตย์ตก

 

ขอบารมีเสด็จเตี่ย คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้เจอกำลังพลทุกนายด้วยความปลอดภัย ซึ่งพ่อแม้ของกำลังพลผู้สูญหาย รอด้วยความหวัง

 

พล.ร.อ.อะดุง ยังเปิดเผยว่า ตั้งแต่เหตุได้พูดคุยกับพล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม อดีตรองปลัดกลาโหม และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ หลัง ลูกชาย น.ต.พลรัตน์ สิโรดม ตำแหน่ง ต้นเรือ สูญหายเช่นเดียวกันว่า ท่านเป็นห่วงลูกชายมาก และไม่แทรกแซงการปฏิบัติงาน เพราะรู้เรามีงานมาก พร้อมยังบอกให้ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งยืนยันเราทำเต็มที่เพื่อค้นหากำลังพลทั้ง 30 คน ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม เพราะทุกคนคือลูกเสด็จเตี่ยเหมือนกัน

 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า กองทัพเรือได้วางแผนการค้นหากำลังพลทั้ง 30 นาย โดยส่งเรือลงไปและกระจายกำลังค้นหาทุกพื้นที่ทั้งทางน้ำ ทางอากาศ และชายหาด

 

นอกจากนี้พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ยังได้กล่าวถึงกรณีมีการตั้งข้อสงสัยสาเหตุ เรือหลวงสุโขทัยอับปาง จมในทะเลเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2565 ที่ผ่าน เนื่องจากบรรทุกกำลังพลจนทำให้น้ำหนักเกินกว่าที่เรือจะรองรับรวมถึง

 

ประเด็นเสื้อชูชีพที่ไม่เพียงพอกับจำนวนคนบนเรือ ว่า เรือหลวงสุโขทัย สามารถรับน้ำหนักจำนวนกำลังพลกว่า 105 ได้แน่นอน และ ปริมาณคนไม่มีผลอะไรเลยที่จะทำให้เรือล่ม เพราะบนเรือมีปืนใหญ่หนักเป็นตันอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่มีผลอะไรเลย หากจะมีคนมาเพิ่มบนเรือหลวงสุโขทัย อีก 50 คน ซึ่งแต่ละคนหนัก 70 กิโลกรัม ไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย

 

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่ทำให้เรืออับปางและจมใต้ทะเล มาจากสภาพอากาศที่แปรปรวน เพราะอยู่มา 10 ปี ยังไม่เคยเจอทะเลคลั่งเหมือนคืนที่เกิดเหตุ (18 ธ.ค.2565) น่ากลัวมาก อย่างที่เราเห็นกันในคลิป หัวเรือจมลงไปจนทำให้ท้ายเรือยกขึ้นสูงแบบเดียวกับภาพยนต์ เรืองไททานิค

 

พล.ร.อะดุง กล่าวไปต่อว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาจะเห็นว่าสภาพอากาศแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว มีการเปลี่ยนทางสภาพอากาศ ทำให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือ เปลี่ยนไปเกือบถึงขั้นเป็นมรสุม มีลมแรงลงที่อ่าวไทย ในคืนวันเดียวกันนั้น ยังมีเรือสินค้าขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้น จ.สงขลา เกิดกรณีเดียวกับเรือหลวงสุโขทัย

 

เมื่อถามว่า เสื้อชูชีพ มีไม่เพียงพอต่อจำนวนคนบนเรือ พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ยืนยันว่า มีครบ เสื้อชูชีพมี 2 แบบ คือ แบบเสื้อ และ แบบห่วงยาง ซึ่งเป็นอุปกรณ์เซฟการ์ด แต่เมื่อเรือเผชิญกับคลื่นลมแรง อาจมีการกระแทกในจังหวะที่ เรือหลวงสุโขทัย ดีดตัวสูงตามแรงคลื่น แล้วตกลงมากระแทกผิวน้ำอีกที อาจทำให้เสื้อชูชีพ หรือ ห่วงยาง หลุดได้ มันเป็นสถานการณ์ ที่ฉุกละหุก จากที่เคยเตรียมการกันไว้ ว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็จะไม่เป็นไปตามแผนที่ซ้อมกันไว้

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube