“ชัชชาติ” หาเสียงตลาดดินแดง รับทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับประชาชน ย้ำอย่าไปยึดติดกับผลโพล อย่าไปตามกระแส ต้องใช้เหตุผล
บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ที่ตลาดศรีดินแดง และตลาดกลางดินแดงเขตดินแดง เพื่อพบปะประชาชน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยได้มีการสะท้อนปัญหา ให้กำลังใจและขอถ่ายรูปตลอดการเดินทาง ทั้งนี้ขณะที่เดินหาเสียงภายในตลาดได้พบกับทีมหาเสียงของน.ส.ดุษณี เทียรเดช. ตำแหน่ง ผู้สมัคร ส.ก. เขตดินแดง.พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ทักทายและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
หลังจากนั้นนายชัชชาติ ได้กล่าวถึงช่วงโค้งสุดท้ายที่ได้รับการตอบรับดี ว่า ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทุกคนก็มีการปราศรัยใหญ่ มีการสื่อสารกันอย่างเต็มที่แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ ตนก็บอกทีมงานเสมอว่าอย่าไปยึดติดกับผลสำรวจ (โพล) ต่างๆ โพลดีก็เป็นกำลังใจ ซึ่งจากวันแรกที่ตนประกาศตัวว่าจะลงผู้ว่าฯกทม.จนถึงวันนี้ เวลาประมาณ 2 ปีกว่า ตนก็ใจหายเพราะว่าผ่านมานานแล้ว แต่ก็ดีใจที่ได้เดินทางมาถึงจุดสุดท้ายที่ตั้งใจไว้ ก็ต้องรอว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ประชาชนจะตัดสินอย่างไร แล้วก็จะลุยต่อ
ช่วงโค้งสุดท้ายผู้สมัครบางคนมีการหาเสียงในแนวการใช้อารมณ์ร่วม นั้นตนมองว่า สำหรับตนเองตนนิ่งๆ อย่าไปตามกระแสให้เยอะ และสุดท้ายต้องใช้เหตุผลให้เยอะซึ่งช่วงนี้มีพวกข่าวปลอมข่าวหลอกเยอะ แต่คิดว่าประชาชน ก็ไม่ได้แปรเปลี่ยนมากนัก แต่อยากให้ดูที่นโยบายดูที่แนวคิดดีกว่า ส่วนคนที่พูดใส่ร้ายคนอื่นก็มีข้อกฎหมายอยู่แล้วแต่ทั้งนี้ดีใจที่มีการตื่นตัว ส่วนผู้สมัครคนใดมีคนที่มีชื่อเสียงมาสนับสนุนตนก็ดีใจไม่ว่าจะเป็นผู้ตนเองหรือผูเสมัครคนอื่นๆ เพราะทำให้เห็นชัดเจนว่าผู้สนับสนุนแต่นะคนเป็นอย่างไร มีแนวทางเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ หมายเลข 8 ยังได้กล่าวถึงผลสำรวจ (โพล)ที่ออกมาระบุจุดอ่อน ของนายชัชชาติ ว่ามีข้อเคลือบแคลงสงสัยในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีอีกทั้งยังไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ว่าเรื่องนี้ประชาชนต้องเป็นคนตัดสินใจเอง ส่วนในเรื่องของโพลเป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือตามหลักวิชาการ ซึ่งตนเองก็เคารพทุกโพล แต่คนชอบว่าประชาชน คงไม่ได้ไปเชื่อโพลทุกอย่างจะรู้และตัดสินใจเอง สำหรับผลงานของตนเองขณะที่เคยเป็นรัฐมนตรีนั้นก็เช่นการพลักดันให้มีการทำรถไฟฟ้า การทำถนน 4 เลน รถไฟทางคู่ การเปิดมอเตอร์เวย์ ที่สำคัญคือกระตุ้นให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญของเครือข่ายคมนาคมแต่ก็ไม่อยากจะเครมผลงานไว้คนเดียวเพราะเป็นงานระยะยาว ที่ผ่านมามีผลงานแน่นอน ที่เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมอยู่แล้ว
สำหรับจุดแข็งที่จะทำให้ตนเองได้เป็นผู้ว่ากรุงเทพฯนั้นเพราะตนเข้าใจปัญหา มีนโยบายมีแผนการทำงานที่ตอบโจทย์ และความเป็นอิสระก็เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งเพราะจะทำให้ตนจะต้องเข้ากับทุกคนได้ ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกันกับสมาชิกสภากรุงเทพฯ(ส.ก.) ซึ่งการเป็นผู้ว่าฯกทม.ก็ต้องเป็นผู้ว่าฯของทุกคนสามารถประสานการทำงานกับทุกคนได้ ทั้งนี้มองว่าอาจจะได้เปรียบในเรื่องการออกตัวก่อน ทำให้ได้มีเวลาทำทีม สุดท้ายแล้วก็ต้องมีความไว้ใจ ที่ประชาชนจะไว้ใจให้มาทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.
ส่วนจุดที่มองว่าอาจจะแตกต่างกับผู้สมัครคนอื่นนั้นคือการที่ตนไม่มีฐานเสียง ต้องหาเสียงทุกพื้นที่ด้วยตนเอง ส่วนข่าวลือ ตนก็ไม่ได้กังวลใจเพราะประชาชน เข้าใจความจริงความเท็จ ส่วนโพลต่างๆก็ต้องดูที่ความน่าเชื่อถือหรือทำเพื่อมีผลประโยชน์แอบแฝง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
