fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯ ยินดี ไทย-เยอรมนีร่วมมือกลไกการเงิน

Featured Image
นายกฯ ยินดี ไทย-เยอรมนีร่วมมือกลไกการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รัฐบาลมีนโยบายพร้อมสนับสนุนทุกความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนา และเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ความท้าทายสำคัญที่ทั่วโลกเผชิญร่วมกันคือเรื่องสิ่งแวดล้อม ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทั่วโลก รัฐบาลไทย โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แสดงเจตนารมณ์ในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050 และเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี ค.ศ. 2065 ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 26 (COP26) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร

 

นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ไทยได้มีความร่วมมือกับมิตรประเทศเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และต่อยอดความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำและมีภูมิคุ้มกันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (German Agency for International Cooperation : GIZ) ภายใต้แผนงานความร่วมมือไทย – เยอรมนี ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้จัดการประชุมสัมมนากลไกการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “Thailand Climate Finance Conference: From International to Domestic Mechanism” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางการเงินและการลงทุนให้แก่ผู้สนใจจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน สื่อมวลชน และองค์กรอิสระ เพื่อให้ได้รับทราบกลไกทางการเงินด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแสวงหาแหล่งทุนต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และชี้ให้เห็นถึงโอกาสและความท้าทายของภาคธุรกิจสีเขียวที่กำลังมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตและการค้าการส่งออกในตลาดโลก

 

ซึ่งนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นถึงศักยภาพประเทศไทยในการเติบโตด้านเศรษฐกิจสีเขียว สามารถพัฒนาต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการอย่างต่อเนื่องให้ความสำคัญกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อเพิ่มมูลค่า และขีดความสามารถการแข่งขันแต่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญต่อการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และให้ความสำคัญกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งส่วนหนึ่งส่งผลให้รัฐบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles : EVs) ในประเทศ เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ลดการปล่อยมลพิษ และตั้งเป้าสู่การเป็นฐานการผลิตสำคัญในภูมิภาค รวมทั้งสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก และพลังงานทดแทน

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube