fbpx
Home
|
ข่าว

นายกฯจ่อทำบุญปท.-รบ.เชื่อปชช.มั่นใจมากขึ้น

Featured Image

โฆษกรัฐบาล เชื่อประชาชนมั่นใจมากขึ้น หลัง รัฐบาลจัดซื้อวัคซีนครบ 3 แพลตฟอร์ม เชื้อตาย – ไวรัลเวกเตอร์ – mRNA พร้อมระบุ การออกมาตรการเข้ม ต้องควบคู่เศรษฐกิจ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคณะแพทย์ต้องการให้วัคซีนหลักของไทยเป็นวัคซีนชนิด mRNA ว่า รัฐบาลได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมพิจารณาถึงความเหมาะสมที่จะนำเข้ามาให้ประชาชน โดยปัจจุบันมีวัคซีนอยู่หลายแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตายทั้งซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีน และวัคซีนที่เป็นไวรัลเวกเตอร์แอสตราเซเนกา

และวันนี้ ได้มีการพิจารณาเห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการลงนามสัญญาการจัดซื้อวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์จำนวน 20 ล้านโดส และจำนวนวัคซีนบางส่วนที่จะได้รับการบริจาคมาจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นวัคซีนจาก 3 แพลตฟอร์ม ตารางวัคซีนเชื้อตาย วัคซีนไวรัลเวกเตอร์ และวัคซีน mRNA สามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนได้มากขึ้น

ขณะที่มาตรการเชิงรุกทำให้พบผู้ติดเชื้อรายวันจำนวนสูงขึ้น รัฐบาลจะยกระดับมาตรการอย่างไรนั้น นายอนุชา ระบุว่า ภายใน 1 เดือนจากนี้ทั้งส่วนของสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจสามารถเดินหน้าไปพร้อมกันได้ เพื่อลดความกดดันของประชาชน โดยหากมีมาตรการอะไรออกมาในขณะนี้รัฐบาลจะพิจารณามาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ เช่น คำสั่งล่าสุดที่ ศบค. ออกมาตรการมาในพื้นที่ 6 จังหวัด

 

โฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรี กักตัว 14 วัน ตามมาตรการด้านสาธารณสุข

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการกักตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า นายกรัฐมนตรี มีการตรวจ และการกักตัวจะเป็นไปตามมาตรการที่ทราบกันอยู่ทั่วไป คือ 14 วัน

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีการพูดคุยกันว่า มีรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะต้องกักตัวหรือไม่ แต่ละคนทราบดีว่าตัวเองมีความเสี่ยงหรือไม่อย่างไร และในส่วนของนายกรัฐมนตรีเมื่อทราบว่าประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ที่มาขอถ่ายรูปติดเชื้อโควิด ก็ได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อและกักตัวทันที ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีอยู่ระหว่างการดูแลตัวเอง

นายกฯ จ่อทำบุญประเทศหลังมีเหตุร้ายแรง แนวทางเหมาะสมช่วงโควิดระบาด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับความคิดที่จะทำบุญ เพราะคนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อว่าเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงควรจะต้องมีการทำบุญใหญ่ ว่า นายกรัฐมนตรี กำลังพิจารณาวิธีการที่เหมาะสมโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบัน โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา โดยที่ผ่านมาก็มีการดำเนินการลักษณะออนไลน์ เพื่อไม่ให้ประชาชนรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน เพราะยังมีความสุ่มเสี่ยงติดเชื้อ แต่การทำให้ประชาชนมีจิตใจมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี พร้อมดำเนินการสิ่งต่างๆ เหล่านั้น

 

โฆษกรัฐบาล เชื่อ จ.สมุทรปราการ พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว หลังมีดราม่า แคมป์แรงงานในรัศมีเพลิงไหม้ ไม่ได้อพยพ ระบุบางครั้งการดำเนินงาน จะต้องประเมินสถานการณ์หน้างานด้วย

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ชี้แจงถึงกรณี ที่ ส.ส. ก้าวไกล ออกมาโพสต์ มี 3 แคมป์คนงานสมุทรปราการ ไม่ได้อพยพ ออกจากรัศมีเพลิงไหม้ ว่า เป็นเรื่องของหน้างาน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบ ว่า ควรจะต้องช่วยเหลือประชาชนที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรตรงนั้นอย่างไร ตนเข้าใจว่าการดำเนินงานได้ดำเนินการอย่างเหมาะสมแล้ว คงไม่เป็นประเด็นอะไร เพราะ ณ ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้ากับสภาวะปกติแล้ว การเยียวยาการดูแลผู้อพยพต่างๆ ก็จะดำเนินการต่อไป

ส่วนประเด็นดราม่า ที่ว่าแรงงาน ไม่มีสิทธิ์ที่จะอพยพออกมานั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ เรื่องนี้เป็นเรื่องของศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดสมุทรปราการ ได้ดูแลความเหมาะสมอยู่แล้ว บางครั้งการดำเนินงานจะต้องดูสถานการณ์หน้างานด้วย ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการคงจะให้คำตอบที่ดี ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ศูนย์ปฏิบัติการได้ตัดสินใจอย่างไรบ้าง ที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตรงนั้น

 

นายกฯ ยันไร้ปัญหารอยร้าวทำงานกับพรรคร่วม ขอทุกคนนึกถึงประชาชนเป็นหลัก หยุดโควิดระบาด-ฟื้นเศรษฐ?กิจ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณีการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีรอยร้าวและการทำงานอาจจะมีปัญหาได้อย่างไร ว่า เป็นประเด็นต่อเนื่องที่สมาชิกพรรคการเมืองมีการตอบโต้กันในสภา ซึ่งยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ไม่มีปัญหาใดๆ ในการทำงาน และยังสามารถพูดคุยกันด้วยความเรียบร้อย ด้วยความเข้าใจ ส่วนปัญหาต่างๆ ที่อาจจะมีการกระทบกันบ้าง สุดท้ายแล้วก็หาทางออกร่วมกันด้วยดี และขอให้ทุกคนนึกถึงประชาชนเป็นหลัก เพราะหน้าที่หลักของรัฐบาลคือการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนและหยุดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รวมถึงดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นแต่ละพรรค ก็มีภารกิจในการดำเนินงาน ของแต่พรรคผ่านกระทรวงที่กำกับดูแล

พร้อมย้ำว่าบรรยากาศในการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีการถกเถียงอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ แต่จะถกเถียงผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube