fbpx
Home
|
ข่าว

ก้าวไกล ย้ำจุดยืน ปิดสวิตช์ ส.ว.ยกเลิก รธน.60

Featured Image
ก้าวไกล ย้ำจุดยืน ปิดสวิตช์ ส.ว. ยกเลิก รธน.60 ยกร่างใหม่โดย ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชนโดยตรง ไม่เอาด้วยร่างเพื่อไทย แก้ 256 ไม่เตะหมวด 1-2

 

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงข่าวยืนยันเดินหน้า แก้ไขรัฐธรรม ย้ำจุดยืนยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน แล้วร่างใหม่โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากประชาชนโดยตรง

โดยนายพิธา กล่าวว่า การประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จะต้องจัดลำดับความสำคัญนำร่าง พ.ร.บ. ประชามติที่ค้างอยู่ที่ประชุมอีก 10 มาตรา ตามวาระปกติให้แล้วเสร็จ แล้วค่อยนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาต่อ เพราะมีความพยายามเบี่ยงเบนการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ดังนั้น จุดยืนพรรคก้าวไกล เห็นชอบร่วมกัน ให้ปิดสวิตช์ ส.ว. ด้วยการยกเลิกอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี โดยจะเสนอร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 16 มิถุนายน นี้ แต่จะไม่ร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร เนื่องจากเห็นว่า จำกัดอำนาจห้ามแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2 ซึ่งเป็นการสร้างบรรทัดฐานการเมืองที่ผิด ส่งผลเสียต่อระบบประชาธิปไตยในระยะยาว

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกล เสนอการแก้ไขระบบเลือกตั้ง ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ เลือก ส.ส. แบบแบ่งเขต 1 ใบ และ เลือกพรรคการเมือง 1 ใบ โดยใช้วิธีคิดคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อทุกคะแนนไม่ตกน้ำ ตามเจตนารมณ์ของประชาชน

 

“ปิยบุตร” ตั้งธง รัฐบาลไม่ได้จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ จับตาบทบาทประธานสภา ดักคอขอแก้ระบบเลือกตั้ง คือเป้าหมายหลักเปิดทางให้ระบอบประยุทธ์ได้สืบทอดอำนาจอีกรอบ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ตัวแทนกลุ่ม Re-Solution กล่าวในการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมลงชื่อ แก้ไขรัฐธรรมนูญกับกลุ่ม Re-solution ถึง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะกำลังเข้าสู่การประชุมรัฐสภา ว่า รัฐบาลไม่ได้จริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญตั้งแต่ต้น แต่ก็โดนกดดันโดยประชาชนพรรคร่วมรัฐบาลจึงยอมยื่น และสุดท้ายวาระ3 ก็ถูกคว่ำ

แต่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลเริ่มมีปัญหาขัดแย้งกัน จึงเริ่มเสนอแก้ไขรายมาตรา และรีบนำวาระเข้าสู่รัฐสภา โดยข้าม พ.ร.บ.ประชามติที่ยังค้างอยู่ เพื่อหวังที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นบทบาทของประธานรัฐสภา จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากรอให้พ.ร.บ.ประชามติ จบไปก่อนรัฐสภาชุดนี้ก็ยังมีอีกหลายเดือนที่จะนำญัตติต่างๆเข้ามาพิจารณา

การแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้ มีความพยายามที่จะเสนอหลายร่าง แต่ความสำคัญคือวัตถุประสงค์ที่ต้องการ คิดว่าที่รัฐบาลและฝ่ายค้านบางพรรค ต้องการแก้ระบบเลือกตั้ง ส่วนเรื่องอื่นๆคือส่วนประกอบ และคาดว่าการแก้ระบบการเลือกตั้งครั้งนี้สำเร็จ เปลี่ยนไปเป็นแบบปี 40 เท่ากับว่า เปิดทางให้ระบอบประยุทธ์ ได้สืบทอดอำนาจอีกรอบนึง

สะท้อนว่าระบอบประยุทธ์ เห็นประชาชนไม่มีค่าเลยหรือ ซึ่งร่างที่ยื่นเข้าไปนั้นก็ไม่ได้ มุ่งเน้นที่ต้นตอของปัญหา ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่สำคัญคือการปฏิรูปองค์กรอิสระ การล้มวุฒิสภา และการทำรัฐประหาร แต่เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาทางการเมืองของตนเอง และจะสร้างความชอบธรรมให้กับพรรคพลังประชารัฐ เป็นรอบที่ 3

สำหรับร่างของ Re-solution นั้น คิดกันว่าเมื่อมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ก็จะเปิดทางให้กับส.ส.ร. ร่วมกันออกแบบ เพราะทราบดีว่าระบบเลือกตั้ง หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)ไปแตะหรือไปทำกันเองก็จะเกิดข้อครหาทันที ว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ข้อนี้ใครได้ใครเสีย

นอกจากนี้ ไม่มีระบบเลือกตั้งที่สมบูรณ์แบบที่สุด ระบบเลือกตั้งมีข้อดีข้อเสียกันหมด แต่อยู่ที่ว่าจะสร้างสมดุลของระบบเลือกตั้งนี้อย่างไร ซึ่งส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญและต้องถกเถียงกัน คือจะต้องทำให้ 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่าเทียมกันหมด ทุกคะแนนของประชาชนจะไม่ถูกทิ้งน้ำ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube