ผู้จัดกิจกรรมราษฎรหยุด APEC2022 ยัน จะชุมนุมค้างคืนที่ลานคนเมือง ชี้ ไม่มีการปะทะ เชื่อทุกอย่างพูดคุยกันได้ พร้อมย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง
น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หนึ่งในผู้จัดกิจกรรมราษฎรหยุด APEC2022 ยืนยันว่า จะชุมนุมพักค้างการชุมนุมที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ตั้งแต่วันที่ 16-18 พ.ย.65 เพราะพี่น้องมาจากต่างจังหวัด ไม่ให้ค้างคืนคงไม่ได้ บางคนไม่มีต้นทุนเช่าโรงแรม ฉะนั้นพื้นที่สาธารณะประชาชนมีสิทธิใช้ในพื้นที่ เราจะดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องทุกคน ความสะดวก อาหารการกิน และที่พัก ส่วนประเด็นมือที่สาม หากมองเหตุผลในการชุมนุมที่เรียกร้องเรื่องปากท้องชาวบ้าน การปะทะอาจไม่เกิดขึ้น เชื่อว่าทุกอย่างพูดคุยกันได้ อยากให้มาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้แผนการเคลื่อนขบวนคงต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง เพราะจุดมุ่งหมายของเราคือ ต้องการส่งเสียงข้อเรียกร้องใกล้กับผู้นำเขตเศรษฐกิจให้มากที่สุด พร้อมย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง
คือ 1.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรี ต้องยกเลิกนโยบาย BCG กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ที่พยายามนำเสนอเข้าที่ประชุมเอเปครับรอง เนื่องจากเป็นแนวคิดที่เอื้อประโยชน์กับกลุ่มทุนชั้นนำในประเทศ 2.พลเอกประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมที่จะลงนามข้อตกลงร่วมกับผู้นำกกลุ่มเอเปค และต้องยุติบทบาทการเป็นประธานในที่ประชุมโดยทันที และ 3.พลเอกประยุทธ์ ต้องยุบสภา เปิดทางให่มีการเลือกตั้ง จัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง อันจะทำให้ได้มาซึ่งผู้นำปประเทศที่สง่างาม คู่ควรกับการเป็นเจ้าภาพในการประชุมประชาคมโลกในอนาคต
น.ส.ภัสราวลี กล่าวว่า นโยบาย BCG ที่รัฐบาลผลักดันประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1.นโยบายชีวภาพ เกี่ยวเนื่องกับพืช GMO การดัดแปลงพันธุกรรม 2.นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน เกี่ยวเนื่องกับการผลักดันให้สร้างโรงไฟฟ้าน้ำตาล หรือโรงไฟฟ้าจากอ้อย ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้แข็งเหมาะสมกับการผลิตไฟฟ้า มีเพียงนายทุนที่มีศักยภาพในการดัดแปลงพันธุกรรม ทั้งยังส่งผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม 3.นโยบายสีเขียว คาร์บอนเครดิตที่สืบเนื่องจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของ คสช. เปิดพื้นที่ให้กลุ่มทุนต่างชาติปลูกป่า ขายคาร์บอนเครดิตทดแทนให้กับกลุ่มทุนตนเอง ตัดสมการประชาชนออกจากกระบวนการ
“นโยบาย BCG ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมออกแบบแต่แรก และไม่เห็นจุดใดเลยที่ประชาชนจะได้รับผลประโยชน์โดยตรง นอกจากนายทุน”
อย่างไรก็ตามนโยบาย Bangkok Goal รัฐต้องการให้ประเทศไทยเปิดพื้นที่รองรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก ซึ่งประเทศไทยมีพื้นที่ไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ประชาชนที่จะกลายเป็นพื้นที่ขยะโลก และรัฐไม่ได้ให้ข้อมูลชัดเจนถึงกระบวนการ และผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราต้องจับตาดูในเวทีเอเปคว่าจะมีนโยบายใดถูกผลักดันให้เป็นรูปธรรม
น.ส.ภัสราวลี กล่าวถึงประเด็นการฟอกเขียวนายทุนว่า นโยบาย BCG ไม่ได้แย่ แต่ถ้าอยากให้มีการค้าคาร์บอนเครดิต ควรสนับสนุนให้ชาวบ้านเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ปลูกป่าขายคาร์บอนเครดิต ไม่ใช่เอาพื้นที่จากชาวบ้านให้นายทุนลงทุนปลูกป่า เป็นขั้นตอนที่รัฐไม่ให้ความสำคัญกับสิทธิที่ดิน ริดลอนพื้นที่ชาวบ้าน
ขณะที่เมื่อช่วงเช้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าคุมตัวนักศึกษารามคำแหงและนักกิจกรรม 3 คนที่หอพักย่านรามคำแหง ให้เหตุผลว่า อาจก่อความวุ่นวายในช่วงการประชุมเอเปค 2022 น.ส.ภัสราวลี มองว่า รัฐทำเกินกว่าเหตุ และกลัวกว่าเหตุในหลายเรื่อง การประชุมเช่นนี้ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนแสดงออก แต่รัฐกลับเรียกกำลังพลแน่นหนาและคุกคามนักเคลื่อนไหว กรณีนักศึกษารามคำแหงเป็นจุดตอบโต้ชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้กลัวที่จะให้ประชาชนใช้สิทธิและเสรีภาพตามประชาธิปไตย กลัวที่จะเอาความเป็นจริงในพื้นที่มาขยายให้สาธารณชนรับรู้ ดังนั้นยิ่งกลัวยิ่งต้องเปิดเผยความจริง การกระทำใดที่ไม่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตยต้องต่อต้านและลุกขึ้นสู้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
