น้องชายฉุน พี่เขยบุกทำร้ายพี่สาว ยิงปืนขู่แฉลบจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุขี่รถจยย. หลบหนี ตร.ประสานญาติให้พาเข้ามอบตัว
คืนที่ผ่านมา (13 ต.ค. 65) ร.ต.อ.ปฏิญญา จิรัญดร รอง สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยจตุโชติ 10 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191 ประสาน เจ้าหน้าที่กู้ชีพเอราวัณ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ท้ายซอย เป็นบ้านชั้นเดียว พบนายร่างสุริยา อายุ 39 ปี สภาพสวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีรอยถูกยิงด้วยกระสุน นอนหมดสติบนพื้น เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายชรินทร์ อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุ หลังเกิดเรื่องได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
เบื้องต้นทราบว่า นายสุริยา มีอาชีพเป็นคนขับรถบรรทุกรับจ้าง มีภรรยาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว พร้อมลูกอีก 2 คน ต่อมาได้แยกกันอยู่ ประมาณ 1 ปี 5 เดือน เนื่องจากถูกผู้ตายทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จนวันนี้ก่อนเกิดเหตุนายสุริยา ได้โทรศัพท์หาภรรยาเกือบ 30 สาย แต่ฝ่ายหญิงไม่ได้รับเพราะนอนหลับ ก่อนที่ผู้ตายจะบุกเข้ามาในบ้านและเปิดประตูเข้าไป เห็นเพื่อนของภรรยาที่ตัดผมสั้นมีลักษณะคล้ายทอม กำลังนอนหลับอยู่บนพื้นในห้องโถง เนื่องจากเมื่อช่วงเย็นมาสังสรรค์กัน และกลับบ้านไม่ได้ จึงเกิดความเข้าใจผิด ปรี่เข้าไปทำร้ายร่างกาย จนภรรยาที่นอนอยู่อีกห้องรีบออกมาดูเหตุการณ์ และห้ามปรามนายสุริยา แต่ก็ไม่เป็นผล จนถูกนายสุริยาทำร้ายร่างกายไปด้วยอีกคน กระทั่งนายชรินทร์ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นน้องชายของภรรยา ที่พักอาศัยอยู่ในห้องนอนบ้านเดียวกัน ออกมาเห็นเหตุการณ์ พร้อมตะโกนว่า “เข้ามาตีพี่สาวตนเองถึงในบ้านเลยหรือ” และบอกให้หยุด จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงขู่ลงพื้นจำนวน 2 นัด แต่คาดว่ากระสุนแฉลบโดนนายสุริยาจนเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำพยานและประสานญาติให้ผู้ก่อเหตุติดต่อเข้ามอบตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจหาหัวกระสุน และส่งร่างให้นิติเวช รพ.ตร.ผ่าชันสูตรต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
