รัฐบาลเดินหน้ากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ คิดไตร่ตรองก่อนโอนเงิน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งได้สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก ถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลจะพยายามแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้ทันกลโกงมิจฉาชีพ แต่ยังมีประชาชนหลงเชื่อ ตกเป็นเหยื่อ สูญเสียเงินอยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ จากความทุ่มเทกวาดล้างแก๊งมิจฉาชีพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงานร่วมกับตำรวจกัมพูชาทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานปฏิบัติการกลางเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา สามารถจับกุมผู้ต้องหาและได้นำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมาได้เข้าทำการตรวจค้นพร้อมกัน 2 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 อาคารในเมืองพระสีหนุ ซึ่งเครือข่ายกลุ่มนี้มีแผนประทุษกรรมหลอกลวงคนไทยให้ทำการลงทุน ในเครือข่ายของแอพพลิเคชั่น tiktok มีประชาชนได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ที่เกิดเหตุพบคนไทย 19 ราย
เป็นบุคคลตามหมายจับ 15 ราย และไม่มีหมายจับอีก 4 ราย ซึ่งทั้งหมดทำงานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลงทุนโดยใช้แอพพลิเคชั่นชื่อว่า tt (tiktok ปลอม) จุดที่ 2 อาคารในเมืองกันดาล ซึ่งเป็นจุดที่ตั้งของกลุ่มคนจีนร่วมกับคนไทย จัดตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ในลักษณะแอบอ้างเป็นพนักงานไปรษณีย์ไทย, บริษัท DHL และแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง มีประชาชนได้รับความเสียหายมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ผลการตรวจค้นพบคนไทยซึ่งเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ตามหมายจับกว่า 40 ราย
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีนโยบายเร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และหาทางป้องกันอย่างจริงจัง ถอนรากถอนโคนขบวนการนี้ให้หมดสิ้นไป เพื่อแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน รวมทั้งฝากเตือนประชาชนให้มีสติก่อนจะโอนเงินให้ใคร ทั้งนี้ หากผู้เสียหายที่ยังไม่ได้ร้องทุกข์สามารถแจ้งความในระบบรับแจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com หรือพบเบาะแส สามารถปรึกษาได้ที่สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือศูนย์ PCT 08-1866-3000
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews