Covid Free Setting คือแนวทางปฏิบัติเพื่อใช้ยกระดับความปลอดภัยสำหรับหน่วยงาน องค์กร กิจการต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะ ร้านเสริมสวย ร้านตัดผม สปา รวมไปถึงขนส่งสาธารณะต่างๆ โดยแนวทางนี้จะอาจจะใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้ โดยดูจากผลประเมินในเดือนกันยายน
สรุป Covid Free Setting ในเบื้องต้น
แน่นอนว่าแนวทาง Covid Free Setting หรือ Covid Free pass อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งซึ่งเราจะอัปเดตให้ทุกคนทราบแน่นอน โดยทาง สธ. จะแบ่งตามกิจการเพื่อให้ง่ายต่อการอ่าน
ร้านอาหาร
สำหรับร้านอาหารก็เป็นหลักที่ใช้กันอยู่แล้วหลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดี แต่ที่เพิ่มเข้ามาแล้วเป็นที่สนใจของประชาชนหรือธุรกิจร้านอาหารคือ พนักงานและลูกค้าต้องฉีดวัคซีนครบโดส ก็เลยเกิดข้อถกเถียงว่า แล้วบางคนที่ยังไม่ถึงคิวต้องทำยังไง ในประเด็นนี้ก็ต้องรอความชัดเจนต่อไป
ห้าง
สำหรับห้างนั้นก็ไม่ต่างจากที่ผ่านมาเท่าไหร่ มีจุดที่นักวิชาการหลายท่านให้คำแนะนำตรงกันคือ เน้นให้ใช้เครื่องกรองอากาศหรือระบบกรองอากาศ HEPA กระจายอยู่ทุกที่ เน้นตรงที่มีคนจำนวนมาก จุดที่อากาศไม่ไหลเวียนเพื่อลดความเสี่ยงต่อเชื้อที่กระจายทางอากาศ (Airborne)
สถานที่ออกกำลังกาย
จุดที่น่าสนใจสำหรับสถานประกอบการออกกำลังกายคือ ยังไม่มีแนวทางสำหรับยิม ฟิตเนสที่ติดแอร์ ยังไม่มีแนวทางออกมาประกาศอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากเลยทีเดียว
ร้านเสริมสวย-ร้านตัดผม
สำหรับร้านตัดผม เสริมสวย ทำผม ข้อที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดคือ แต่ละคนต้องใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม. ตรงนี้เสียงส่วนใหญ่บอกว่าน้อยเกินไป เพราะการตัดผม-ทำผมนั้นใช้เวลามากกว่านี้ ประกอบกับทำความสะอาดเครื่องมือ อุปกรณ์ทุกครั้งทำให้เพิ่มเวลาของร้านเข้าไปอีกตรงนี้ทางรัฐบาลก็มีการนำไปพูดคุยกันก็ต้องรอดูผลสรุปอีกครั้ง
สปา นวด
สำหรับสปาตอนนี้ยังเปิดให้นวดบริเวณเท้าเท่านั้น ที่มีข้อกังวลคือร้านส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ในห้าง อาจจะมีความกว้างไม่มากนัก พอต้องแบ่งเว้นระยะห่างอาจจะทำให้มีปัญหาเรื่องพื้นที่ได้
ขนส่ง
สำหรับระบบบริการขนส่งสาธารณะ ก็เน้นไปที่ระยะห่าง การระบายอากาศ แต่ยังมีปัญหาคือ จากกรณีลดเที่ยวโดยสารทำให้รถก็ค่อนข้างแออัด ก็มีการเสนอทางรัฐบาลให้เพิ่มจำนวนเที่ยว
สำหรับ Thai stop Covid Plus กับ Thai Save Thai คือช่องทางลงทะเบียนและใช้สำหรับประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับโควิด-19 สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดกันไว้ได้เลย หากมีการอัปเดตเพิ่มเติมทาง ไอ.เอ็น.เอ็น. จะแจ้งให้ทุกคนทราบ อย่าลืมฝากกดติดตามไว้ได้เลย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
