fbpx
Home
|
ข่าว

ไทยสร้างไทยออกพิมพ์เขียวแนวทางเยียวยาปชช.

Featured Image
ไทยสร้างไทย ออกพิมพ์เขียว แนวทางเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวน 2 กลุ่ม

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรค และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงพิมพ์เขียว แนวทางเยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า จากการที่รัฐบาลมีคำสั่งล็อกดาวน์ แต่ยังไม่มีมาตรการเยียวยาที่เพียงพอ ได้ส่งผลกระทบ ต่อประชาชนและธุรกิจ SMEs เป็นจำนวนมาก จึงขอเสนอพิมพ์เขียวแนวทางเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากโควิด-19 ดังต่อไปนี้

กลุ่มที่ 1 ประชาชนทั่วไป ให้เยียวยาทุกครัวเรือน

  1. ช่วยค่าครองชีพ เดือนละ 7000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้ประชาชนมีค่ายังชีพ เพียงพอประทังชีวิตในช่วงล็อกดาวน์
  2. ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ค่าน้ำ, ค่าไฟ ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน ให้ใช้ฟรี 3 เดือน / ค่าเช่า รัฐเจรจากับเอกชนผู้ให้เช่า เพื่องดการเก็บค่าเช่าเป็น เวลา 3 เดือนในระหว่างที่รัฐยังไม่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ โดยรัฐชดเชย ให้กับผู้ให้เช่าบางส่วน และให้รัฐช่วยเจรจาหามาตรการลดค่าดำเนินการ (GP) ที่บรรดาผู้ประกอบการ Food Delivery เรียกเก็บจากพ่อค้าแม่ค้า ให้เหลือ 10% เพื่อช่วยร้านอาหารรายเล็ก
  3. พักชำระหนี้เป็น เวลา 6 เดือน ด้วยการพักการผ่อนเงินต้นและลดคิดดอกเบี้ย และต้องไม่ถือว่า เป็นการผิดนัด

กลุ่มที่ 2 เยียวยาสำหรับธุรกิจ SMEs

  1. ช่วยจ่ายค่าจ้างให้พนักงานเดือนละ 5,000-7,000 บาท ผ่าน SMEs เป็นเวลา 6 เดือน
  2. พักชำระหนี้ SMEs ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่นับเป็นหนี้เสีย
  3. โครงการ “Soft loan 1 แสนล้านบาทเพื่อสร้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง” โดยมีเงื่อนไขหลักๆคือ ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 10 ปี, วงเงินปล่อยกู้ 500,000 – 1,000,000 บาท, ให้ บสย. ค้ำประกัน 100%, ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการขอใช้วงเงิน, ทุกการกู้ 5 แสนบาท ต้องจ้างงาน 5 ตำแหน่ง ตลอดระยะเวลาการกู้, รัฐช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้ครึ่งหนึ่งในช่วง 2 ปีแรก ซึ่งถือว่าน้อยมาก คุ้มกับการช่วยชุบชีวิต SMEs เป็นแสนๆ ราย ให้เดินหน้าธุรกิจได้ต่อหลังโควิด-19 และทำให้เกิดการจ้างงานถึง 1 ล้านตำแหน่ง
พรรคไทยสร้างไทย ออกพิมพ์เขียวแนวทางเยียวยาประชาชน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube