fbpx
Home
|
ข่าว

ครม.เห็นชอบใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาป่วยโควิด

Featured Image
ครม.มติเห็นชอบหลักการส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด ที่ยังไม่มีอาการเป็นทางเลือกในการรักษาและลดภาระระบบสาธารณสุข

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาและลดภาระระบบสาธารณสุข ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

ซึ่งที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการมาตรการเชิงป้องกันความรุนแรงของโรคโควิด-19 ด้วยการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่มีศักยภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์และลดการแบ่งตัวของไวรัส ใช้รักษาในกลุ่มผู้ต้องขังที่มีอาการไม่รุนแรง จำนวน 1.18 หมื่นคน พบว่าได้ผลดี สามารถรักษาผู้ต้องขังหายแล้ว ร้อยละ 99.02 จากยอดผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศปลูกสมุนไพรประเภทต่างๆ โดยเน้นการปลูกฟ้าทะลายโจรและกระชายขาวเป็นหลักในพื้นที่ 141 ไร่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเพื่อช่วยผู้ต้องขังในเรือนจำที่ติดเชื้อโควิด-19 และโรคอื่นๆ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนทั่วไปด้วย

ทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้กำชับถึงการส่งเสริมใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ จะต้องชี้แจงแนวทางให้ชัดเจน เช่น แนวทางการรักษา ปริมาณยาที่เหมาะสมต่ออาการของผู้ป่วย ข้อควรระวัง อาการข้างเคียง แนวทางการผลิตและจัดจำหน่าย เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปริมาณยาฟ้าทะลายโจรที่เหมาะสม จะต้องมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่ผู้ป่วยควรได้รับปริมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็น 60 มิลลิกรัมต่อมื้ออาหาร จึงจะได้ผลชัดเจน นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์พิจารณาหาแนวทางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการกักตุนสินค้ายาฟ้าทะลายโจร ตลอดจนควบคุมราคาของยาฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรอื่นๆ ให้มีความเหมาะสมและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน

 

ครม.มติให้ พม. ใช้จ่ายงบฯปี64 งบกลาง จำนวน 3,493.19 ล้านบาท อุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดช่วง ก.ค. – ก.ย. 64

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อมุ่งเน้นให้เด็กแรกเกิดได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพและมีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย เพื่อเติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคต โดยให้เงินอุดหนุนเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 600 บาท กับครอบครัวที่มีรายได้น้อย สำหรับปีงบประมาณ 2564 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนให้กับผู้มีสิทธิ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึงเดือนมิถุนายน 2564 แล้ว จำนวน 1,966,093 คน

แต่ด้วยในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 มีผู้ได้รับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดสูงถึง 2,227,029 คน ดังนั้นเพื่อให้การจ่ายเงินอุดหนุนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3,493.19 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายเป็นเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 จำนวน 2,227,029 คน อย่างต่อเนื่อง

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube