fbpx
Home
|
ทั่วไป

ศบค.ยันแก้ปัญหาสายด่วนแล้วมั่นใจโทรติดใน1นาที

Featured Image
ศบค. ยันแก้ปัญหาสายด่วนแล้ว มั่นใจโทรติดใน 1 นาที ย้ำจำเป็นต้องฉีดวัคซีน รัฐเร่งดำเนินการให้ครอบคุลม 70 ล้านคนในปีนี้

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กในวันนี้กรุงเทพมหานครได้รายงานว่า มีการเพิ่มคู่สายรองรับเพื่อจัดสรรเตียงให้กับผู้ป่วย โดยยืนยันว่าจะสามารถโทรติดได้ใน 1-2 นาที ซึ่งสามารถตรจสอบได้ โดยจะมีบุคลากรรับเรื่อง และในส่วนที่สองจะมีการคัดแยกตามอาการ ซึ่งสามารถทำแบบประเมิณที่ “สบายดีบอต” ก่อนที่จะโทรไปได้ รวมถึงขอให้รอการติดต่อกลับและจะต้องใช้เวลา 1-2 วัน ในการจัดหาเตียง โดยแพทย์หญิงอภิสมัย ย้ำว่า ระหว่างการรอเตียงจะต้องสังเกตอาการของตัวเองและต้องทำมาตราการแยกกักตัวเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังบุคคลที่ใกล้ชิด

ทั้งนี้แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า การกระจายวัคซีนในขณะนี้เป็นการกระจายวัคซีนในภาวะฉุกเฉินที่ได้รับการอนุญาตจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ซึ่งจำเป็นจะต้องฉีดวัคซีนด้วยเหตุผล คือ วัคซีนช่วยลดอัตราการตาย หากป่วยวัคซีนนี้จะลดอัตราการใช้บริการของโรงพยาบาลหรือห้องไอซียู แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการรายงานยืนยันว่าฉีดวัคซีนแล้วจะไม่แพร่กระจายเชื้อ ซึ่งเหตุนี้จึงเป็นคำตอบที่ประชาชนควรจะฉีดวัคซีน

ส่วนแผนการกระจายวัคซีนแผนของภาครัฐตอนนี้ คือ ครอบคลุมประชากรประเทศไทยรวม 70 ล้านคน ประชาชนได้รับวัคซีนครอบคลุมร้อยละ 70 คือ 50 ล้านคน รวม 100 ล้านโดส โดยกระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนการกระจายวัคซีนเสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งอยากให้ติดตามเนื่องจากจะมีการจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมอีก

ทั้งนี้แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า พบข่าวมีความอันตรายหลังฉีดวัคซีน ที่พบว่ามีอาการคล้ายอัมพฤกษ์ โดยมีการตรวจสอบและสอบสวน พบบางรายมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีอาการชา ทีมสอบสวนจึงได้ทำการตรวจสอบและวิเคราะห์ด้วยวิธีใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง CTMRI พบผลเป็นลบ จึงมีข้อสรุปว่า อาการดังกล่าว คล้ายอัมพฤกษ์ แต่มีการยืนยันว่าไม่น่าจะใช่ ซึ่งจากนี้จะมีการสืบสวนหาข้อมูลต่อแต่ในขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube