แม้จะเพิ่งหมดเทศกาลสงกรานต์แสนร้อนฉ่าไป แต่ความวุ่นวายก็ไม่เคยหยุดยาวตาม หลังเกิดกระแส ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวลวนลามทำอนาจารผู้หญิงโดยไม่สมยอม จนต้องสละเก้าอี้ตำแหน่งการเมือง ลามไปสู่รอยร้าวในพรรค ปมร้อนนี้เกิดและดำเนินไปอย่างไร มาฟังกันได้เลย
เปิดประวัติ ปริญญ์ พานิชภักดิ์
- นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นลูกชายของ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติ และ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO)
- มีดีกรีจบถึงเมืองนอกประเทศอังกฤษ ก่อนจะกลับมาทำงานในประเทศไทยในอาชีพนักเศรษฐศาตร์และการเงิน และเข้าเส้นทางการเมืองตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา
- ด้วยการเป็นลูกของคนที่มีชื่อเสียง และความสามารถการลงทุนและการเมือง ทำให้ปริญญ์มีบทบาทงานเสวนามากมาย ทั้งเวทีแนะแนวทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงได้เป็นหนึ่งในแกนนำรณรงค์ยุติความรุนแรงทางเพศต่อสตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่คดีอื้อฉาวนี้จะเกิดขึ้น
จุดกำเนิด #ปริญญ์
- เหตุการณ์เริ่มต้นในวันหยุดสงกรานต์ เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาเปิดเผยผ่านเพจส่วนตัวว่า
- มีน้องคนหนึ่งมาปรึกษาว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้น หลอกว่าจะพามาคุยเรื่องงานและสอนเรื่องหุ้น เศรษฐศาสตร์ แต่พอมาจริงกลับคุยแต่เรื่องเพศ และลวนลามโดยไม่ยินยอม
- โดยเหยื่อถูกเจ้าตัวพาไปทานข้าวผ่านการอ้างว่าจะสอนเรื่องลงทุน แต่ระหว่างการทานข้าวกลับโดนถามแต่เรื่องเพศอย่างเดียว มีการพยายามให้เหยื่อดื่มแอลกอฮอล์ และลวนลามหลายต่อหลายครั้ง
- ในตอนแรกทนายตั้มยังไม่มีการเปิดเผยว่านักการเมืองที่ว่านี้เป็นใครหรืออยู่พรรคไหน แต่ด้วยกระแสพลังชาวเน็ตที่ล้นหลาม ทนายตั้มจึงได้คอมเมนต์ข้อความอ้อมๆว่า “พรรค(ไอค่อนรูปแมลงสาบ)ครับ คนนี้พ่อใหญ่มาก ดังระดับโลก”
- ด้วยข้อมูลเพียงเท่านี้ก็ทำให้ชาวเน็ตออกไล่ล่าหาความจริง จนถึงบางอ้อในที่สุดว่าเป็น คุณปริญญ์ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ มีการตั้ง #ปริญญ์ ขึ้นพร้อม #metoo ไว้สำหรับวิพากษ์วิจารณ์การทำงานพรรคการเมืองนี้โดยเฉพาะ ท่ามกลางกระแสต่อต้านการคุกคามทางเพศที่เป็นประเด็นต่อเนื่องในปัจจุบัน
ทนายตั้มงัดหลักฐานเด็ด
- หลังมีการแชร์โพสต์ดังกล่าวไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทนายตั้มก็แจ้งว่าตอนนี้มีเหยื่อที่เคยโดนคุณปริญญ์คุกคามเข้ามาร้องทุกกับเขาอีกมากมาย
- พร้อมระบุต่อว่า ประวัติรองหัวหน้าพรรคคนนี้ไม่ธรรมดา เคยก่อเหตุลักษณะนี้กับหญิงไทยอายุ 18 ปี 2 คนที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2003 ช่วงที่เรียนอยู่เมืองนอก แต่สุดท้ายเรื่องเงียบเพราะพ่อใหญ่มากในเวลานั้น และทำแบบนี้กับอีกหลายคนในประเทศไทย
- ต่อมา ทนายตั้ม ได้นำตัวผู้เสียหายรายแรกเข้าพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ทยอยขึ้น สน. ขอดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
- โดยให้ข้อมูลว่าลักษณะการล่อลวงเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน คือถูกพาไปกินข้าวที่รูฟท๊อปโรงแรมหรู ก่อนพาไปที่ห้องพักใกล้ๆ บางคนโดนลวนลาม บางคนโดนข่มขืน จนถึงขั้นซึมเศร้า แต่ตอนนั้นไม่กล้าแจ้งความเพราะโดนใช้กำลังอำนาจบาตรใหญ่บังคับ
- และหนึ่งในบรรดาเหยื่อที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือ คุณหทัยรัตน์ วิทยพูม หรือ แอนนา ภรรยาของไฮโซลูกนัท ที่ลาออกจากผู้สมัคร ส.ก. เพื่อให้คนสนใจคดีนี้อย่างจริงจังเลี่ยงประเด็นเรื่องการเมืองออกไป
- อีกทั้งตั้งแต่วันแรกของเทศกาลสงกรานต์จนถึงขณะนี้ ทนายตั้มก็ทยอยเผยแพร่หลักฐานลงสู่สาธารณะมากมายเพื่อเร่งคดีให้ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งภาพกล้องวงจรปิดในร้านอาหาร ภาพถ่ายห้องพักที่ใช้ล่อลวงเหยื่อ รายงานจำนวนเหยื่อที่ติดต่อเข้ามาเรื่อยๆกว่า 14 ราย
- รวมถึงระบุว่า รองหัวหน้าพรรคหื่นมีความพยายามเสนอเงินจำนวนมากให้เหยื่อเพื่อจบคดี และให้อยู่อย่างเงียบๆห้ามให้สัมภาษณ์ ห้ามให้ความร่วมมือกับตน เพื่อให้กระแสสังคมเลิกสนใจคดีนี้ไป
- อีกทั้งเปิดหลักฐานเด็ดเป็นคลิปเสียง เหยื่อคนหนึ่งคุยกับปริญญ์ถึงเหตุการณ์ในตอนนี้ ว่าตนไม่ได้ทำอะไรเลยแต่โดนจัดฉากโดยถูกพรรคการเมืองสีส้มเพราะเป็นคนทางการเมือง เหยื่อที่เพิ่มมาเรื่อยๆก็ลอกข้อมูลกล่าวหากันมา
- ทั้งนี้ทนายตั้มเองก็ให้คำตอบการช่วยเหลือคดีล่อลวงสาวครั้งนี้ว่าไม่เกี่ยวอะไรกับประเด็นการเมือง เพียงแค่อยากช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีปากมีเสียงแค่นั้นเอง
การตอบโต้ของปริญญ์
- ขณะเดียวกันนั้นในฝั่งของ คุณปริญญ์ ก็ได้ออกมาโต้ข่าวขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่ได้มีพฤติกรรมเช่นนั้น และเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง
- โดยถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่บอกไว้ เจ้าตัวก็ขอลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค เพราะไม่อยากกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป
- รวมถึงโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ชี้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่สังคมกำลังให้ความสนใจ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญและเน้นหนักมาโดยตลอดในเรื่องสิทธิสตรี อย่าเพิ่งตัดสินว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เรื่องนี้มีการพูดกันเยอะ มีทั้งผู้ที่หวังดีและไม่หวังดี จึงอยากให้ประชาชนรับฟังข้อมูลทั้งสองฝ่ายก่อน ยืนยันไม่กระทบกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
- สรุปเป็นนัยๆได้ว่า การกระทำเรื่องนี้ของปริญญ์อาจเป็นจริงก็ได้แต่ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับพรรคแน่นอน
- สวนกลับกระแสการออกหมายจับของตำรวจที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเช้าวันที่ 16 เม.ย. ปริญญ์ ก็แสดงความจำนงเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีในคดี กระทำอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น
- เบื้องต้นคุณปริญญ์ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอ
- และใน วันที่ 17 เม.ย. คุณปริญญ์ก็ยื่นคำร้องขอฝากขังที่สถานีตำรวจเนื่องจากวานนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหามามอบตัวก่อน ซึ่งศาลอนุญาตให้ประกันตัวแต่กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยเด็ดขาด
- พร้อมกันนั้นปริญญ์ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับหลักฐานต่างๆที่ฝั่งทนายตั้มมีว่า “ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม”
ซึ่งจากที่เห็นในฐานะประชาชนชาวเน็ตอย่างเราๆ ก็ได้แต่เอาใจลุ้นว่าผลของความยุติธรรมกับจำนวนเหยื่อในคดีอนาจารที่ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้น คนกระทำความผิดจะได้รับโทษที่สาสมกับสิทธิเรียกร้องความเท่าเทียมในปัจจุบันหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้ปัญหาคุกคามทางเพศกลายเป็นsoft power แข่งกับข้าวเหนียวมะม่วงไทย?
ติดตามดราม่าร้อน ประเด็นดังแบบไม่ตกเทรนด์ไปกับเราที่ ไอ.เอ็น.เอ็น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews