fbpx
Home
|
ภูมิภาค

ตั้ง3ข้อหาหนักคนขับรถทำ“น้ำมนต์”เพื่อนดับ

Featured Image
ตำรวจขอนแก่น ตั้ง 3 ข้อหาหนักเอาผิดคนขับรถพา “น้ำมนต์” และเพื่อนเกิดอุบัติเหตุ หน้าคณะนิติศาสตร์ มข. เสียชีวิตรวม 3 ศพ

ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ. ขอนแก่น พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีการเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ซูซูกิ สวิฟ สีเงิน หมายเลขทะเบียน 4กย- 4074 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพลิกค่ำชนต้นไม้ เหตุเกิดบริเวณสี่แยกหน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข. ตรงข้าม โรงเรียนสาธิตศึกษาศาสตร์ มข. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ประกอบด้วย นายเกริกฤทธิ์ สุกงพงษ์พันธ์คำ อายุ 22 ปี และ น.ส.กรชฎา เสียงใส อายุ 22 ปี และ น.ส.มนชนิตว์ ช่วยบุญ หรือ น้องน้ำมนต์ อายุ 22 ปี รองนางสาวไทยปี 2562 ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 หลักสูตรวัสดุศาสตร์และนาโนเทคโนโลยี สาขาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มข. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา (อ่านข่าว“น้องน้ำมนต์”เสียชีวิตแล้ว-ญาตินำมงกุฎรับศพ) ได้มีการรายงานความคืบหน้าแนวทางการสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้รอดชีวิต คือ นาย ถิรเดช อายุ 23 ปี คนขับรถที่ได้รับบาดเจ็บและขณะนี้อาการหายดีแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ซึ่ง พนักงานสอบสวน สภ.ย่อย มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะออกหมายเรียกให้มาพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดในเบื้องต้น 3 ข้อกล่าว ขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ใช้รถที่ไม่ทำ พรบ.และขับขี่รถขณะเมาสุราจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นคนขับจริง ดื่มแอลกอฮอล์และขับรถเร็ว ซึ่งจากการตรวจสอบคลิปภาพพบว่าเป็นการขับขี่รถเร็วที่เกินหว่าที่กฎหมายกำหนด ขณะที่จากกาตรวจสอบผลเลือดผู้ขับขี่ ซึ่ง รพ.ศรีนครินทร์ มข.ได้แจ้งมายังพนักงานสอบสวนนั้นพบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 183 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้การแจ้งข้อกล่าวหาอยู่ที่ 3 ข้อกล่าวหา และหากผลการตรวจพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญส่งมาที่ตำรวจพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเป็นข้อหาที่ 4 คือขับรถเร็ว เพิ่มเติมและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube