fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

“จุรินทร์”ประชุมวอร์รูมรัสเซีย-ยูเครนสั่งติดตามใกล้ชิด

Featured Image
รมว.พณ.ประชุมวอร์รูมรัสเซีย-ยูเครนสั่งติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด ยังไม่กระทบนำเข้า-ส่งออกไทยแต่ให้รายงานรายวันมีปัญหาแก้ทันที

 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน พร้อมกับ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง

 

หลังมีการใช้มาตรการการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของ 6 ประเทศต่อรัสเซีย ว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่อการนำเข้า-ส่งออกของไทย รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อค่าขนส่งสินค้า ตัวเลขเงินเฟ้อ รวมทั้งราคาสินค้าในประเทศ

 

โดยได้เชิญทูตพาณิชย์จากมอสโกเข้าร่วมหารือด้วย พบว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกของไทย แต่สำหรับราคาน้ำมัน ที่มีราคาสูงขึ้นแตะ 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าราคาจะขึ้นสูงกว่านี้ไปอีกหรือไม่

 

 

 

ในวันนี้จึงได้สั่งการให้ทุกฝ่ายหารือร่วมกันกับภาคเอกชน และติดตามสถานการณ์ประเมินผลกระทบร่วมกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพบปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วนจะได้แก้ปัญหาร่วมกันในทันที และให้รายงานสถานการณ์และการเป็นประจำทุกวัน

 

ที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องราคาน้ำมัน เพราะจะมีผลต่อต้นทุนการขนส่งและต้นทุนการผลิตสินค้า รวมทั้งราคาสินค้าต่อไปในอนาคตได้

 

ขณะนี้ยังไม่ขอลงลึกเพราะไม่อยากประเมินสถานการณ์ในด้านลบทั้งหมดไปก่อนล่วงหน้า โดยสินค้าบางรายการประเทศไทยมีศักยภาพและสามารถเข้าไปทดแทนตลาดโลกที่เป็นตลาดเดิมของรัสเซียหรือยูเครนได้

 

“หากเกิดสงครามที่ยืดเยื้อ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง ซึ่งรัสเซียส่งออกไปยังสหรัฐปีละ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 5,500 ล้านบาท ขณะที่ประเทศไทยก็ส่งสินค้าดังกล่าวไปสหรัฐเช่นกัน โดยมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเข้าไปทดแทนตลาดยางของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดเดิมของรัสเซียได้ในช่วงที่เกิดภาวะขัดแย้ง

และยังมีสินค้าประมงที่รัสเซียส่งออกไปยังสหภาพยุโรปประมาณปีละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพสามารถทดแทนตลาดสินค้าประมงในสหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ แทนที่รัสเซียได้ในช่วงที่เกิดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าประมงไปยังสหราชอาณาจักร ปีละประมาณ 1,600 ล้านบาท”

 

อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ครบถ้วนทั้งหมด เพราะเพิ่งเกิดเหตุการณ์เพียง 1-2 วัน โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป และมาตรการทั้งหมดของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเอกชนทำให้มีความยืดหยุ่นในการนำเข้าส่งออกของไทย ให้ยังมีเสถียรภาพและได้รับประโยชน์สูงสุดต่อไป

 

 

ด้านกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รายงานว่า

เบื้องต้นรัสเซียเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับที่ 30 ของไทย ส่วนยูเครนเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับที่ 63 ของไทย โดยในปี 2564 การค้าระหว่างไทย-รัสเซีย มีมูลค่า 88,167 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 14.56 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปยังรัสเซีย มูลค่า 32,508 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 44.90 และนำเข้าจากรัสเซีย มูลค่า 55,660 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 2.07

สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังรัสเซีย 5 อันดับแรก คือ

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (10,162 ล้านบาท)

ผลิตภัณฑ์ยาง (3,379 ล้านบาท)

เครื่องจักรกลและ ส่วนประกอบของเครื่องจักรกล (1,706.9 ล้านบาท)

ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (1,455.6 ล้านบาท)

เม็ดพลาสติก (1,380.7 ล้านบาท)

 

สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวสูงในหมวดสินค้าเกษตรและอาหาร ได้แก่

ยางพารา สิ่งปรุงรส อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลัง สินค้าที่ไทยนำเข้าจากรัสเซีย 5 อันดับแรก คือ

น้ำมันดิบ (25,958.9 ล้านบาท)

ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ (5,667.6 ล้านบาท)

เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ (5,568.4 ล้านบาท)

สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ (5,307.4 ล้านบาท)

เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ (3,350.3 ล้านบาท)

ทางด้านยูเครน ในปี 2564 การค้าระหว่างไทย-ยูเครน มีมูลค่า 12,428 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 28.67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกไปยังยูเครน มูลค่า 4,228 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 37.36 และนำเข้าจากยูเครน มูลค่า 8,199 ล้านบาท ขยายตัว ร้อยละ 24.60

สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังยูเครน 5 อันดับแรก คือ

รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (1,037.1 ล้านบาท)

ผลิตภัณฑ์ยาง (671.7 ล้านบาท)

ผลไม้กระป๋อง และแปรรูป (542.5 ล้านบาท)

อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (285.3 ล้านบาท)

เม็ดพลาสติก (264.3 ล้านบาท)

 

สินค้าไทยนำเข้าจากยูเครน 5 อันดับ คือ

พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช (4,419 ล้านบาท)

เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (3,013.6 ล้านบาท)

ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ (133 ล้านบาท)

สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ (112.5 ล้านบาท)

แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ (112.3 ล้านบาท)

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube