fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

“พาณิชย์”เผยผลศึกษาหนุนตั้งกองทุนFTA

Featured Image
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผยผลศึกษา หนุนรัฐตั้งกองทุน FTA ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำผลการศึกษาแนวทางการพัฒนากลไกช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า หรือ FTA เผยแพร่บนเว็บไซต์ของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ www.dtn.go.th แล้ว โดยผลการศึกษาประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ เช่น ผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า กลไกการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก FTA ของประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และเวียดนาม มาตรการและกลไกช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก FTA ของไทยในปัจจุบัน

ผลการระดมความเห็นภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แนวทางการพัฒนากลไกช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจาก FTA ของไทย และข้อเสนอแนะการจัดตั้งกองทุน FTA โดยกรมฯ จะนำข้อมูลทั้งหมดใช้ประกอบการขอตั้งกองทุน FTA เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า การจัดทำ FTA ของไทยที่ผ่านมา ช่วยให้การส่งออกของไทยขยายตัวดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันไทยก็ต้องลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าของประเทศคู่ FTA เช่นกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าหรือผู้ประกอบการไทยบางส่วนที่ยังไม่สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ การจัดตั้งกองทุน FTA เพื่อช่วยเหลือเยียวยา และพัฒนาศักยภาพผู้ที่ได้รับผลกระทบ ให้สามารถปรับตัวรับการแข่งขันเสรีจึงมีความจำเป็น

ทั้งนี้การจัดตั้งกองทุน FTA ต้องจัดทำ พ.ร.บ. เฉพาะ ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. การบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 โดยกองทุนควรได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลเติมให้ทุกครั้งที่มีการจัดทำ FTA ฉบับใหม่ๆ และภาคเอกชนควรมีส่วนร่วมในการส่งรายได้เข้ากองทุนด้วย อีกทั้งทีมบริหารกองทุนควรทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานข้อกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เอกชน กลุ่มเกษตรกร หรือวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างตรงจุด โดยปัจจุบันกรมฯ อยู่ระหว่างยกร่างข้อเสนอการจัดตั้งกองทุน และร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งกองทุน FTA ซึ่งยังมีประเด็นที่ต้องหารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube